ก็มั่นไปเลยสิคะ! เปิด 5 คนดัง ไม่เเคร์เรื่องรูปร่างปลุกความสวยในเเบบตัวเอง

รูปแบบความงามที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นมากที่สุดในช่วงนี้ก็หนีไม่พ้น "Real Size Beauty" ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่าง สัดส่วนอย่างไรก็ตาม ขอแค่มี"ความมั่นใจ" ก็สวยสุดพลังได้โดยไม่ต้องแคร์มาตรฐานความงามอีกต่อไป

1. แอน แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส

หญิงสาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เจ้าของมงกุฎจากเวที Miss Universe Thailand ประจำปี 2021 ‘แอนชิลี สก๊อต เคมมิส' เจ้าของนิยาม #RealSizeBeauty ผู้ทลายกรอบความงามของสังคมและยืนหยัดที่จะภูมิใจในรูปร่างของตนเอง โดยก่อนหน้าที่แอนจะมาลงประกวดนางงามนั้นเธอมีอาชีพเป็น Curve Model หรือนางแบบพลัสไซส์ ซึ่งเธอก็ภาคภูมิใจในรูปร่างของเธอมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามในตอนที่เธอยังเป็นเด็ก มีคนแนะนำให้เธอลดน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัมเพื่อเป็นนางแบบ

เธอไม่ค่อยพอใจนักจึงผันตัวไปเล่นกีฬาแทน สุดท้ายแล้วความทุ่มเทของเธอก็ส่งผลให้เธอได้รับตำแหน่งกัปตันทีมวอลเลย์บอล บาสเกตบอลและซอฟต์บอลอีกด้วย เพราะฉะนั้นเธอจึงเชื่อว่าความงามที่แท้จริงตามนิยาม Real Size Beauty คือการที่คนเรามีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กันไป และภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเราเป็น

ก็มั่นไปเลยสิคะ! เปิด 5 คนดัง ไม่เเคร์เรื่องรูปร่างปลุกความสวยในเเบบตัวเอง

2. ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ

ศิลปินสาวลูกครึ่งไทย-อิตาเลียนที่เราอาจจะรู้จักเธอจากเวทีประกวดร้องเพลงของ The Star ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอก็พยายามทำงานอยู่ในวงการดนตรีมาโดยตลอด ทั้งทำละครเวที ประกวดรายการ The Voice ร้องคัฟเวอร์บนยูทูบ ฝึกร้องเพลงไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เสียงแกว่ง เรียกได้ว่าเธอทำทุกอย่างในการเป็นศิลปินที่ดี แต่เธอก็ยังถูกคนทักเรื่องรูปร่างหน้าตาและทำร้ายเธอด้วยคำพูดอยู่เสมอ ในตอนแรกซิลวี่เองก็ยอมรับว่าหมดกำลังใจ

แต่ก็ยังลองลดน้ำหนักหลายวิธี แม้กระทั่งการอดข้าวจนเป็นลมก็ทำ แต่กลับกลายเป็นว่าแค่นั้นก็ยังไม่พอ เธอยังคงรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเธอเริ่มยอมรับความเป็นตัวของตัวเอง ทุกตารางนิ้ว ทุกส่วนเว้าส่วนโค้ง ทุกรอยแตกลายของร่างกาย ซิลวี่ก็รู้สึกรักทุกอย่างที่เป็นตัวเธอเอง แถมยังกลับมาทำซิงเกิ้ลสุดปังอย่าง "XL" ปลุกใจให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจและรู้ว่าตัวเองสวยในแบบของตัวเองอีกด้วย

3. Lizzo

แร็พเปอร์สาวพลัสไซส์สุดแซ่บแห่งยุค เจ้าของ 3 รางวัลจากเวที Grammy's Awards เธอเป็นศิลปินที่สนับสนุนให้ผู้คนมั่นใจ ภาคภูมิใจ และรักในร่างกายตัวเองไม่ว่าเราจะเป็นแบบใดก็ตาม และเธอจะแสดงมันออกมาให้เห็นผ่านการกระทำและคำพูดของเธอเสมอ อย่างไรก็ตาม Lizzo เคยถูกผู้คนมากมายเหยียดทั้งรูปร่างและสีผิว แต่เมื่อเธอเรียนรู้ที่จะรักตัวเองแล้ว เธอก็ไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น และเธอก็ยังผลักดันให้คนอื่นๆ ภูมิใจในตัวเองด้วย สาวๆ พลัสไซส์คนไหนที่ติดตามอินสตาแกรมของเธอคงได้รับพลังบวกจากเธอไม่น้อยเลยล่ะ

4. Selena Gomez

Selena อยู่ในวงการฮอลลีวูดมาตั้งแต่เด็กด้วยการเป็นนักร้องและนักแสดง ชีวิตเธอจึงถูกปาปารัสซี่และสปอตไลต์ส่องตลอดเวลา จนเมื่อปี 2017 เธอป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองและต้องเข้ารับการรักษาเปลี่ยนถ่ายไตนั่นทำให้รูปร่างเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากผลข้างเคียงของการรักษา แต่กลับมีคอมเมนต์มากมายบนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

เธอรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดและมันทำให้เธอรู้สึกแย่ ในบางครั้งเธอเองก็กังวลกับรูปลักษณ์ของตัวเองบนอินเตอร์เน็ตเพราะมีคนคอยจ้องมองตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เริ่มคิดว่าแฟนๆ ของเธอจะกังวลเช่นเดียวกัน และ Selena ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น เธอจึงเริ่มทำความเข้าใจว่าภาพที่คนเราสร้างขึ้นบนโซเชียลมีเดียนั้นไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด คนเราไม่ต้องพยายามเพอร์เฟ็กต์ตลอดเวลาก็ได้ สุดท้ายเมื่อเธอทำได้แล้ว เธอจึงเริ่มพยายามผลักดันผู้หญิงและคนรุ่นใหม่ให้รู้สึกดีกับสิ่งที่ตนเองเป็นและมีความสุขกับมันเช่นเดียวกันกับที่เธอทำได้นั่นเอง

5. Demi Lovato

Demi Lovato เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้คนต่างจับจ้องและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับหุ่นของเธอมาโดยตลอด จนมีช่วงเวลาหนึ่งที่เธอหายไปจากวงการ เพราะเธอเข้ารับการบำบัดการติดยา ติดแอลกอฮอล์ โรคไบโพลาร์ และอาการบูลิเมีย (โรคล้วงคอโดยการกินอาหารเป็นจำนวนมาก แล้วล้วงคอให้อาเจียน) ซึ่งเธอต้องใช้ทั้งแรงใจ แรงกาย ทั้งของตนเองและคนรอบข้างในการนำพาตัวเองกลับมาสู่สภาพปกติให้ได้ ในปัจจุบันเธออาการดีขึ้นพร้อมกลับมาทำงานในวงการอีกครั้ง

และยังผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวทางด้านสุขภาพจิต พร้อมกับได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสุขภาพจิต (Mental Health Ambassador) ประจำองค์กร Global Citizen ด้วย จะเห็นได้ว่า Demi มีความกล้าหาญที่ใช้เรื่องราวอันยากลำบากของตนเองมาเป็นตัวอย่างให้กับสังคมเห็นว่าโรคเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ และเธอยังเป็นกระบอกเสียงที่บอกกับผู้คนทั้งหลายด้วยว่าเราควรให้ความสำคัญกับทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปพร้อมๆ กัน