แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม


แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อหมีนะคะ เนื่องจากว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนรู้จักถามกันมาเยอะมากกกว่าทำยังไงถึงผอมลง (ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ)

วันนี้เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของตัวเอง ว่าเราทำยังไงถึงลดจาก89 มา60กิโล ซึ่งสำหรับเราเราว่ามันเยอะมากเลยนะตั้ง 29กิโลและไม่คิดด้วยว่าตัวเองจะทำได้ด้วย ปาดเหงื่อออ!
อะเรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า กลัวจะพูดไร้สาระไปมากกว่านี้ (ถ้าขี้เกียจอ่านชีวะประวัติความอ้วนของเรา เลื่อนไปย่อหน้าสุดท้ายเลยนะฮะ55555)

#สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ก็สามารถไปดูที่youtubeได้นะค่าาา ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://youtu.be/83v930MMZWs

ก่อนอื่นเราขอเล่าย้อนกลับไปตอนสมัยนู้นนน นานมากสมัยพระเจ้าอะไรไม่รู้ คือว่าเราอะเป็นคนที่อ้วนตั้งแต่เด็ก  และนี้คือรูปตอนเด็กๆๆนะฮะ แท่นแท่นนน แอบเขินอายเล็กน้อยฮ๋าๆ



แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

ที่เราจำได้คือน้ำหนัก75ตั้งแต่ป.6เลยอะ แล้วเราคือไม่ชอบชั่งน้ำหนักเลย ไม่กล้าชั่ง เวลาทางโรงเรียนจะให้กรอกน้ำหนักส่วนสูง เราก็จะกรอก75ตลอด เพราะอาย+ไม่กล้าชั่งด้วย  จนถึงม.5 เป็นช่วงที่น้ำหนักเยอะที่สุดในชีวิตนี้เลย น้ำหนักเราก็พุ่งไปถึง89.5กิโล เรายังจำเหตุการณ์ที่ไปชั่งน้ำหนักวันนั้นได้ดี55 เพราะตอนชั่งเราแบบห้ะ นี่เรา89แล้วหรอ คืออีก11กิโลก็จะ100แล้วอะ กลัวมากกกก เพื่อนที่ไปชั่งด้วยยังมีการสะกิดบอกว่า หมีๆๆ ไม่ใช่89นะ มันคือ89.5 555555 เราก็แบบเอออรู้แล้วโว้ย
และนี่คือเราตอนน้ำหนัก89.5



แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

หลังจากวันนั้นเราก็เลยบอกตัวเองว่าจะลดน้ำหนัก แต่ก็ลดแบบ แบบ ณ ตอนนั้นนะเราก็คิดว่าจริงจังแหละ แต่พอมาย้อนนึกคิดกลับไปคือไม่เรียกว่าจริงจังเลยฮ่าๆ แบบบบพูดไงดีอะ ลดแบบไม่มีความรู้เรื่องลดน้ำหนักเลย เรากินเยอะเหมือนเดิม แล้วเน้นออกกำลังกาย โดยการที่เราไปเข้าร่วมทีมบาสของห้อง เพราะที่โรงเรียนจีนจัดแข่งบาส ทีนี้เลยมีโอกาสซ้อมบาส1-2วันนต่ออาทิตย์ ประมาณ2เดือนมั้งจำไม่ค่อยได้ เพราะนานมากกกกกแล้ว น่าจะปลายปี2015 

ช่วงนั้นเราไม่ได้ไปชั่งน้ำหนักนะว่าน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นไม่ชอบชั่งน้ำหนักเลย กลับมาต่อเรื่องซ้อมบาส พอจบจากกิจกรรมแข่งบาสของโรงเรียนจีน ประมาณต้นปี2016เราก็ไปเข้าร่วมทีมบาสญของหมู่บ้าน ก็มีโอกาสได้มาออกกำลังกายอีกครั้ง น่าจะประมาณ3อาทิตย์ที่ได้ไปซ้อมบาส ซ้อมบาสก็มีวิ่งรอบสนาม แล้วก็วอมร่างกาย ละก็แบ่งทีมซ้อม พอจบจากการแข่งขันบาสครั้งนั้น เราก็ไปชั่งน้ำหนัก น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ81-82



แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

แล้วเราก็หนัก82มาเรื่อยๆจนมหาลัยปี2เทอม2 หรือต้นปี2018นั้นเองเราไปเที่ยว ภูเก็ต,เวียดนามกลับมา เรารู้สึกแบบเห้ยเราจะอ้วนแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ไปเที่ยวทั้งที กลับมานั่งคัดรูปคือไม่(ค่อย)มีรูปสวยๆเลย ที่ใช้ได้ก็มีแต่แบบเห็นแค่หน้า ให้เพื่อนยืนบังบ้าง เดี๋ยวจะขึ้นรูปให้ดูฮ่าๆ แบบตอนนั้นถ่ายรูปคือเน้นเห็นแค่หน้าอย่างเดียวอะ เพราะมั่นหน้าว่าถึงหุ่นไม่ดีแต่หน้าตาดี55555 ตลกอะ



แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม


แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

หลังจากสองทริปนั้นผ่านไป เราก็เปิดเทอม กลับมาใต้หวัน แล้วทีนี้ช่วงนั้นมีเพื่อนไปแลกเปลี่ยนที่จีน เพื่อนบอกปิดเทอมพร้อมกันเลย นัดเจอกันที่เซี่ยงไฮ้ แล้วกลับไทยพร้อมกันไหม เราก็บอกโอเค เพื่อนก็กำชับต่อว่าลดหุ่นได้แล้วนะ จะได้ไปเที่ยวกันแบบสองสาวสวย ไม่ใช่สองสาวอ้วนผอม (ที่คุยกันคือประมาณเดือนมีนา) คือเพื่อนคนนี้คอยบอกให้ลดน้ำหนักตลอดเลย ตั้งแต่ม.ต้นอะแบบหมีต้องผอมก่อนจบม.3นะ ทางเราก็ไม่ผอมจ้ะ พอขึ้นมอปลาย เพื่อนก็บอกต้องผอมก่อนจบม.6นะทางเราก็ไม่ผอมจ้าฮ่าๆๆ

และเพราะทริปที่จะไปเซี่ยงไฮ้ เราเลยเริ่มออกกำลังกายแบบจริงจัง ด้วยการไปว่ายน้ำ ตอนนั้นเราดูรายการวู้ดดี้พอดี มีคนนึงที่บอกเสียเงินสี่สิบหรือห้าสิบบาทอะ ไปว่ายน้ำแล้วเขาก็ลดน้ำหนักได้ เราก็เลยทำตามเค้า แต่ไม่ได้ไปทุกวันเหมือนเค้านะ ไม่ค่อยมีเงินอะช่วงนั้น+ไม่ค่อยมีเวลาด้วย เราไปอาทิตย์ละ 2-3ครั้ง ว่ายครั้งละ 10รอบ สระว่าน้ำ25แบบ25เมตรนะคะ บางวันก็ไปวิ่งรอบสนามกีฬา 2-3รอบ (วิ่งรอบสนามกีฬาคือประหยัดเงินและเววลาด้วย) ตอนนั้นไปวิ่งแรกๆสองสามรอบคือเหนื่อยมากอะ ( พอหลังๆเริ่มชินเราก็เพิ่มทั้งระยะว่ายน้ำและวิ่งนะคะ) อ้อ มีอีกอย่างคือเราเปลี่ยนจากใช้ลิฟต์เป็นบันได เดินบันไดขึ้นลงหอสี่ชั้นทุกวัน ช่วงนั้นเราก็เปลี่ยนการกินนิดหน่อย คือหลัง1ทุ่มจะไม่กินอะไรเลย แต่แอบมีหลุดบ้างนะ วันสองวัน เราทำแบบนี้ประมาณ น่าจะ 3 เดือน(เมษา-พฤษภา-มิถุนา6) เราลดไป 10 kg จาก82เป็น72 และเราก็ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ค่า ตอนนั้นคิดว่าตัวเองผอมล้วเหมือนกันนะ เดะขึ้นรูปให้ ผอมแบบอ้วนๆ หลังจากทริปเซี่ยงไฮ้เราก็ไปมาเลกับสิงคโปรต่อและนี้คือรูปช่วงที่ไปเที่ยว

ตอนไปเซี่ยงไฮ้ เริ่มดูผอม ผอมส่วนหน้า5555




แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม


แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม


แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม


แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

ช่วงที่เที่ยวก็คือไม่ค่อยได้ชั่งน้ำหนักเลย ชั่งอีกทีตอนเปิดเทอมตอนเดือนกันยา น้ำหนักก็ยังอยู่ที่71-72อยู่ กลับมาเรียนครั้งนี้เราตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่าเราจะน้ำหนัก65ให้ได้ก่อนสิ้นปี เราเลยหาข้อมูลจากยูทูป หาเยอะมากอะ มีเยอะมากหลากหลายวิธี เราก็เลยคัดมาลอง วิธีที่เราคัดมาลองทำคือ กินอาหารคลีน บวกกับการทำIF ตอนนั้นเราทำไอเอฟแบบเคร่งครัด 2อาทิตย์ หลุดบ้าง วันสองวัน แหะๆ (ปัจจุบันไอเอฟเราเลือกทำเป็นช่วงนะ ช่วงนึงทำ2-3วัน เริ่มมื้อแรกเที่ยงและจบมื้อสุดท้ายก่อนหกโมงเย็น)
ส่วนการกินของเราช่วงนั้นคือ เช้ากินไข่ต้ม+ผลไม้ ,ข้าวโอ๊ตใส่ไข่,โอ๊ตไนท์โอ๊ต+ผลไม้1อย่าง (ตอนทำIf เราก็ตัดมื้อเช้าออก)

เที่ยงก็จะมีพวกมันฝรั่งต้มอกไก่ ไข่ผัดมะเขือเทศ ข้าวกล้อง+ผัดผักบล็อกโคลี่
มื้อเย็นจะเน้นผัก ผัดผักแบบใช้นำแทนน้ำมัน+ไก่นึ่งบ้าง ไก่อบบ้าง แล้วก็ซุปสาหร่ายเพื่อให้อิ่มท้องค่ะ
ปล.มื้อเย็นส่วนมากเราจะกินที่ร้านที่ไปทำงาน ที่ร้านจะให้กินข้าวตอนเลิกงาน นั้นก็คือ1ทุ่ม บางวันถ้าคนเยอะก็ได้กินตอน1ทุ่มครึ่ง ช่วงทำไอเอฟเราก็แบบทำใจกล้าๆ ขอคุณป้าว่าเราขอกินข้าวก่อนเข้างานได้ไหม เพราะเราจะลดน้ำหนัก คุณป้าก็โอเคเซเยสค่า (คุณป้าเป็นบุคคลที่ทำให้เรามีสติในการกินด้วย555)
ทำแบบนี้อยู่ประมาณ เดือนกว่า น้ำหนักก็ลดจาก 72 มา 66.9 แต่ขอบอกว่ามีหลุดเหมือนเดิมนะฮ่าๆๆที่ชอบหลุดที่สุดก็คือกินไก่ทอดชาไข่มุกแล้วก็ขนมกรุบกรอบอะแต่ไม่บ่อยแต่หลุดทีนึงคือแบบกินเยอะอะ
การออกกำลังกายในช่วงที่กินคลีน เราออกกำลังกายด้วยการไปวิ่งรอบสนาม ตั้งเป้าไว้คือวิ่งวันละ5รอบ +กระโดดเชือก
"และการออกกำลังกายอีกอย่างของเราคือ เสาร์-อาทิตย์เราไปทำงานพาทไทม์ที่สวนสนุก ทำวันละ8ชั่วโมง เวลายืนเฉยๆเราก็จะทำท่าออกกำลังกายแบบลดต้นขาอะ นึกได้ก็ทำ นึกไม่ได้ก็เดินวนไปวนมา"

และนี่คือเราตอน66.9




แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

พอเราน้ำหนัก66.9 เราเหลือเวลาอีก56วัน จะปิดเทอม เราเลยทำตาราง ออกกำลังให้ตัวเอง เดี๋ยวจะขึ้นรูปให้ดู เราพยายามเต้นตามยูทูปทุกวัน และเราชอบอ่านคอมเม้นใต้คลิปด้วยเพราะมันจะทำให้เรามีกำลังใจฮ่าๆเดะให้ดูว่าเราทำคลิปไหนบ้าง

หน้าตาตารางที่ทำขึ้นเอง55555 วันไหนได้ออกกำลังกายแล้วก็มากากาบาทในช่อง



สุดท้ายขอสรุปเลยนะว่าอยากผอมต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองก่อน
อยากผอมอย่าขี้เกียจออกกำลังกาย อย่าคิดว่าออกกำลังกายมันเหนื่อย ไม่อยากออก เราต้องคิดว่าออกกำลังกายเนี้ย ทำให้เราแข็งแรง ทำให้เราสุขภาพดี และทำให้เราผอมด้วย เวลาจะไปออกกำลังกายก็อย่าคิดนาน หมายถึงแบบวันนี้จะไปวิ่งดีไม๊ จะไปว่ายน้ำดีไม๊ เพราะคิดไปคิดมาก็สามชมผ่านไปละ ไม่ไปละ เราต้องแบบเออว่ะไปวิ่งดีกว่า เปลี่ยนชุดไปเลย ใส่รองเท้า และโผล่ที่สนามกีฬา55555 เวลาที่ไม่มีอะไรทำ เปลี่ยนจากเล่นคอม,มือถือ,ดูยูปทูป ไปเดินเล่นหรือวิ่งแทนดีกว่านะคะ ได้พักสายตาจากแสงคอมกับมือถือด้วย (เราคือเวลาเครียดๆก็จะเลือกไปออกกำลังกายด้วยฮ่าๆ ยิ่งเครียดบ่อยยิ่งออกบ่อย ยิ่งแข็งแรงเลยทีนี้)

แล้วอีกอย่างที่สำคัญก็คือการกิน อยากผอมต้องรู้จักเลือกกิน เลือกกินให้เป็น กินแบบมีสติ กินเป็นไม่ใช่ว่ากินน้อยนะ ต้องกินให้แบบครบห้าหมู่ กินให้ได้สารอาหาร

สรุปจริงๆอีกรอบ การออกกำลังกายและการกินของเรามีดังนี้
1, วิ่งรอบสนาม ครั้งละ5-10รอบ
2, ว่ายน้ำ 500-1000เมตร
3,กระโดดเชือก 500หรือ1พันแล้วแต่กำลัง
4,ทำคลิปกระชับสัดส่วน ต้นขา,กับหน้าท้อง,
#เลือกทำนะไม่ใช่ว่าทำหมดทุกอันพร้อมกัน
การกิน เราเน้นผัก
ผักที่กินบ่อยๆคือ ผักกวางตุ้ง,ผักกาดขาว,ฟักทอง,มันฝรั่ง,ข้าวโพด,
เนื้อสัตว์เน้นกิน อกไก่/น่องไก่/ปลา/หมูไม่ติดมัน
ผลไม้ กล้วยหอม กีวี่ แอปเปิล ส้มโอ ส้ม มะเขือเทศลูกเล็ก แก้วมังกร

ไม่รู้ไม่มีอะไรจะเขียนต่อแล้วววววววววว เราเขียนไม่เก่งงงงงงงง ถ้าเราเขียนงง วกไปวนมาหรือยังไง ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะฮะะะะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยเด้อ ไปนอนก่อนแล้ว ถ้าอยากรูละเอียดว่านี้หลังไมค์มาถามได้นะคะ เรามีคำปลุกใจเยอะเลยยยยฮ่าๆๆ ขอลาทุกคนไปด้วยรูปปัจจุบันของเรานะฮะ




แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 29 กิโลกรัม จากเด็กอ้วนที่ไม่คิดว่างจะผอม

เครดิตแหล่งข้อมูล : pantip


เรียบเรียง : ทีมงาน Teenee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์