4 สาเหตุ และ การดูแลรักษารอยคล้ำใต้ตา

การนอนไม่พอเป็นสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาที่พบบ่อยที่สุด หากสาวๆ รู้สึกเหนื่อยล้าอิดโรย ก็จะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถระบายทางเส้นเลือดใต้ตาได้ตามปกติ สาเหตุนี้จะนำไปสู่การสะสมของของเหลวข้างใต้ ผิวใต้ดวงตาจะปรากฏเป็นสีแดง สีม่วงหรือสีน้ำเงินจาง ๆ ส่งผลทำให้บริเวณใต้ตามีความหมองคล้ำและดูซีดจนก่อตัวเป็นรอยคล้ำใต้ตาได้

วิธีแก้ไข: การนอนพักผ่อนเพิ่มเติมเป็นวิธีการรักษาตามธรรมชาติที่ช่วยขจัดรอยคล้ำใต้ตาได้ หากสาวๆ คนไหนมีอาการนอนไม่หลับหรือทรมานกับการนอนไม่หลับ สามารถออกกำลังกายให้มากขึ้นหรือทานยานอนหลับเพื่อการนอนที่ดีขึ้นได้

การเพิ่มขึ้นของอายุตามธรรมชาติเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา เมื่อสาวๆ อายุมากขึ้น ผิวก็จะหย่อนลงและบางยิ่งขึ้น เพราะมักจะสูญเสียไขมันและคอลลาเจนไป สาเหตุนี้จะทำให้หลอดเลือดใต้ตาดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยสาเหตุเดียวกันนี้ เปลือกตาและเบ้าตาที่บวมจะโตมากขึ้นใต้ดวงตาจนก่อให้เกิดรอยคล้ำได้

วิธีแก้ไข: การเพิ่มขึ้นของอายุเป็นกระบวนการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สาวๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าต่างๆ เช่น คอนซีลเลอร์หรือคัลเลอร์คอลเร็คเตอร์ช่วยปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ นอกจากนี้ การทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีเรตินอลแล้วนวดผิวรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้นและทำให้ผิวสว่างขึ้นได้

รอยคล้ำสามารถเป็นสัญญาณให้เห็นถึงภาวะขาดน้ำได้ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ผิวบริเวณใต้ตาจะดูหมองคล้ำ ตาโหลของสาวๆ จะทำให้มองเห็นรอยคล้ำได้ชัดเจนมากขึ้นเนื่องจากอยู่ใกล้กับโหนกแก้มข้างใต้

วิธีแก้ไข: แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วรวมทั้งทานผลไม้สดทุกวัน น้ำยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตที่ป้องกันไม่ให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา สาวๆ พึงระลึกว่าจะต้องปลีกตัวให้ห่างจากเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาทิเช่น ชา กาแฟและแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้

ผิวบริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกาย โรคภูมิแพ้ เช่น โรคแพ้ผื่นคัน จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว หลอดเลือดที่บวมเหล่านี้จะปรากฏเข้มขึ้นรอบดวงตา ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าบางอย่าง เช่น มาสคาร่า อายแชโดว์ อาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง การถูและเกาที่เปลือกตาที่มีอาการคันจะยิ่งทำให้รอยคล้ำแย่ลง

วิธีแก้ไข: ทานอาหารที่มีวิตามินเคสูง เช่น ผักโขม บรอกโคลี สามารถลดอาการเลือดจับตัวเป็นลิ่มได้และยังเสริมสร้างผนังเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรงเพื่อหลีกเลี่ยงเลือดรั่วไหลได้ด้วย