8 วิธีรักษาและป้องกันสิวใต้คาง ได้ผลดีมาก แทบไม่เสียเงินสักบาท!!

วิธีรักษาสิวที่คางด้วยตัวเอง

ในกรณีที่สิวที่คางเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดขึ้นจากสภาวะการทำงานที่ผิดปกติของร่างกายที่รุนแรงนั้น คุณสาวๆ สามารถที่จะทำการรักษา โดยการปรับสมดุลของร่างกายได้ด้วยตัวเอง โดยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. รับประทานผักผลไม้มากๆ สิวที่คางเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลำไส้กำลังมีปัญหา โดยสามารถสังเกตได้ว่าคนที่ท้องผูกหรือไม่ได้ขับถ่ายเป็นปกติมักที่จะมีสิวเกิดขึ้นที่คาง การรับประทานผักสดและผลไม้จะช่วยทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ทำให้ลดการเกิดสิวที่คางได้

2. ลดละความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุในอันดับต้นๆที่ทำให้สิวเกิดขึ้นที่คาง คุณสาวๆควรหากิจกรรมที่ชอบมาช่วยลดความเครียดลง เช่น ท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหารที่ชื่นชอบ การช็อปปิ้ง เป็นต้น

3. ลดระดับอาหารเผ็ด หรือรับประทานอาหารที่มีรสจืด เพราะการทานอาหารรสจัดทำให้ลำไส้ต้องทำงานหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวขึ้นที่คาง

4. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะช่วยทำให้ลำไส้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น

5. อย่าเผลอเท้าคาง เพราะในมือของเรามีคราบสกปรก และเชื้อแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก คุณสาวๆ ในขณะที่เท้าคางจะทำให้บริเวณที่ถูกมือสัมผัสเกิดความสกปรก จนนำไปสู่การเกิดสิวขึ้น

6. ยาสีฟันสามารถทำให้เกิดสิวที่คางได้ ในขณะที่แปรงฟัน ฟองที่ไหลเยิ้มออกจากมุมปากไปที่บริเวณคางมากจนเกินไป อาจทำให้เกิดสิว และเกิดการอักเสบได้

7. งดทานอาหารที่มีฮอร์โมน เช่น ไก่ เนื้อสัตว์ นมวัว ผลิตภัณฑ์จากนมวัว ข้าวโพดอ่อน แป้งขัดขาว ขนมอบ/เบเกอรี่ ซึ่งจะมีผลในการไปกระตุ้นฮอร์โมนให้ทำงานมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดสิวมากยิ่งขึ้น

8. ทายาแต้มสิว  ในกรณีที่เป็นสิวที่คางมากๆ พร้อมกับมีอาการอักเสบจนไม่สามารถที่จะรอผลจากวิธีการที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้วนั้น ให้ลองใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวช่วยรักษา

ประเภทของสิวที่คาง

สามารถแบ่งประเภทของสิวที่เกิดขึ้นบริเวณคางออกได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

1. สิวผด หรือ สิวมลภาวะ เกิดขึ้นจากการรักษาความสะอาดของใบหน้าไม่เพียงพอ จากมลภาวะที่พบในชีวิตประจำวัน หรือการล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด

2. สิวฮอร์โมน มีลักษณะเหมือนกับสิวอุดตัน และสิวอักเสบ มักจะเกิดขึ้นเมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณผู้หญิงไม่สมดุล โดยเฉพาะเวลาที่ใกล้ช่วงประจำเดือน หรือมีความเครียด เป็นต้น
สำหรับสิวอักเสบบริเวณคางที่บ่งบอกว่าอวัยวะภายในร่างกายกำลังทำงานอย่างผิดปกตินั้นสามารถสังเกตได้จาก อาการของสิวอักเสบที่เกิดขึ้น ว่ามีอาการดีขึ้นและยุบหายไปตามเวลาหรือไม่
ถ้าหากสิวอักเสบที่บริเวณคางลุกลามรุนแรงหรือรู้สึกเจ็บปวดมาก

วิธีการแก้ไข
คงจะไม่ใช่การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรักษาสิวเพียงอย่างเดียว แต่ควรไปพบกับสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจเช็คการทำงานของฮอร์โมนและอวัยวะภายในเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณผู้หญิงเอง เพราะสิวอักเสบเรื้อรังที่ขึ้นตามบริเวณใต้คางหรือแนวขากรรไกร อาจเป็นสัญญานของโรครังไข่ และความผิดปกติของฮอร์โมนประเภทอื่นๆ หากละเลยต่อการรักษาแล้ว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและภาวะมีบุตรยากได้

ข้อมูลดีๆจาก Clinic Sanambinnam

8 วิธีรักษาและป้องกันสิวใต้คาง ได้ผลดีมาก แทบไม่เสียเงินสักบาท!!

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์