มาทำความเข้าใจกับวิธีลดไขมันใต้ตากันเถอะ

       ลดไขมันใต้ตา เป็นปัญหาความสวยความงามที่ติดอับดับมากที่สุดอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งบริเวณรอบดวงตา เป็นจุดที่ผิวอ่อนโยน บอบบางเป็นพิเศษ ต้องใส่ใจดูแลอย่างทนุถนอม อันดับแรกเรามารู้ถึงต้นตอของปัญหาและสาเหตุที่เกิดไขมันใต้ตา รวมไปถึงวิธีลดไขมันใต้ตาอย่างถูกวิธีกันดีกว่า

        ต้นตอของปัญหาไขมันใต้ตา           
 ในทางการแพทย์ต้องแยกให้ได้ว่าปัญหาไขมันใต้ตาดังกล่าวเกิดจาก ไขมันหรือกล้ามเนื้อ ซึ่งถุงไขมันจริงๆก็คือ ถุงไขมันที่อยู่ในเบ้าตาคนเรา มีด้วยกัน 5 ถุง อยู่เหนือเปลือกตาบน 2 ถุง และใต้เปลือกตาล่าง 3 ถุง พบปัญหาบ่อยๆ จะมีอยู่ 2 ถุง คือ ถุงกลาง (Middle Fat) และบางส่วนของถุงไขมันด้านใน(Inner Fat) ซึ่งถุงใต้ตา มี 2 ลักษณะ คือ ถุงใต้ตาแท้ และถุงใต้ตาเทียม
            1.ถุงใต้ตาแท้ เกิดจากระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ปกติแล้วคนเราจะมีก้อนไขมันสามก้อนอยู่ใต้ตา ก้อนไขมันเหล่านี้จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นไปตามอายุ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ อาจจะสังเกตเห็นถุงใต้ตาได้ตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ
            2.ถุงใต้ตาเทียม เป็นอาการบวมนํ้าที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตาล่าง อาจมีสาเหตุมาจากระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี ทําให้มีของเหลวไปคั่งอยู่ที่ใต้ตามักมาจากพฤติกรรมอันไม่ปกติ เช่น อดนอน ทํางานหนัก(ดึก)ร้องไห้บ่อยครั้ง ชอบขยี้ตา ใช้สายตามากเกินไป หากพักผ่อนนอนหลับเพียงพอ หมั่นประคบเย็นที่ดวงตาเป็นประจํา อาการดังกล่าวก็จะค่อย ๆหายไปได้เอง
            ปัญหาถุงใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากกรรมพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้ไขมันและของเหลวไหลมารวมกันบริเวณผิวหนังใต้ตามากเกินไป จนเกิดการป่องนูน ปกติถุงไขมันจะถูกกันไว้ ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรง ส่วนสาเหตุที่พบบ่อยและไม่ใช่เพราะกรรมพันธุ์ก็คือ ความเส่ือมของผิวหนัง ตามกาลเวลาอันเนื่องมาจากเน้ือเยื่อที่รองรับถุงไขมันอยู่เกิด หย่อนยานลงตามกาลเวลาในวัยที่เพิ่มขึ้น

มาทำความเข้าใจกับวิธีลดไขมันใต้ตากันเถอะ

        8 วิธี ลดไขมันใต้ตาโดยวิธีธรรมชาติ
            1.โยคะหนวดหน้าลดไขมันใต้ตา : วิธีนี้ให้เราใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง กดลงตรงบริเวณถุงใต้ตาโดยให้ปลายนิ้นอยู่บริเวณเนินจมูก กดค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที และทำซ้ำไปเรื่อยจนรู้สึกว่าถุงใต้ตาที่บวมนั้นลดลง วิธีนี้จะเป็นการสลายของเหลวที่เป็นถุงใต้ตา
            2.นอนพักผ่อน : การอดหลับอดนอนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดถุงใต้ตา เพราะฉะนั้นเราควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยงควรพักผ่อน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน โดยควรนอนหลับอย่างต่อเนื่องการนอนที่ละ 3 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง ไม่ทำให้ถุงใต้ตาลดลง
            3.ประคบตาด้วยผ้าเย็น : วิธีแก้ถุงใต้ตามที่บวมอีกวิธีหนึ่งคือนำผ้าขาวบางห่อน้ำแข็งแล้วประคบบริเวณถุงใต้ตา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จะทำให้ถุงใต้ตาที่บวมลดลงได้
            4.ใช้นิ้วชี้กดถุงใต้ตา : วิธีนี้คล้ายกับวิธีแรกแต่แตกต่างกันที่การวางนิ้วเท่านั้นเอง หากอยากรู้ว่าวิธีไหนได้ผลมากกว่ากันเพื่อนๆก็ลองพิสูจน์ได้เลย การกดนี้ิวชี้ทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
            5.ใช้มันฝรั่งหั่นบางๆประคบตา : วิธีนี้ได้รับความนิยมในต่างประเทศ วิธีคือนำมันฝรั่งมาหั่นเป็นชิ้นบางๆประคบบริเวณถุงใต้ตาประมาณ 20 นาทีจะทำให้ถุงใต้ตาที่บวมลดลงได้
            6.ลดอาหารเค็ม : ลองมาสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเอง คนที่ชอบกินอาหารรสเค็ม อาหารที่อุดมไปด้วยเกลือ มีส่วนทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ ยิ่งถ้าวันไหนที่คุณมีถุงใต้ตาบวม แล้วยิ่งกินอาหารรสเค็มเข้าไป ร่างกายก็จะยิ่งกักเก็บน้ำเอาไว้อย่างนั้น ทำให้ถุงใต้ตาไม่หายไป
            7.ลดบวมด้วยถุงชา : ถุงชาชงแล้วสามารถลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้ เนื่องจากในถุงชามีสารคาเฟอีน ที่เป็นตัวช่วยลดอาการบวมและคลื่นขรุขระใต้ผิวหนังได้ด้วย ฉะนั้นหากจะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังใต้ตา ก็ควรเลือกตัวที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม ส่วนวิธีการลดอาการบวมด้วยถุงชาก็ทำไม่ยาก เพียงแค่ใช้ถุงชาที่ผ่านการชงแล้ว มาประคบบริเวณถุงใต้ตาที่บวมสักพัก รอจนอาการบวมค่อย ๆ ยุบตังลงก็ค่อยล้างหน้าตามปกติ
            8.เลี่ยงแดดและแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำขึ้นในบริเวณเปลือกตาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
        การผ่าตัดลดไขมันใต้ตาโดยเทคนิคทางการแพทย์(Lower Blephaloplasty)
           
           1. การผ่าตัดผ่านเยื่อบุตาบริเวณเปลือกตาล่าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อย ไม่มีผิวหนังเกิน หรือไม่มีรอยเหี่ยวย่นที่เปลือกตาล่าง การผ่าตัดโดยวิธีนี้จะไม่มีบาดแผลให้เห็นจากภายนอก
            2.การผ่าตัดบริเวณเปลือกตาล่างใต้ขนตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหนังส่วนเกินหรือมีรอยย่นใต้ตาร่วมด้วย เนื่องจากการผ่าตัดนี้จะสามารถตัดหนังส่วนเกินออกไปได้พร้อมๆกัน ในกรณีที่มีผิวหนังที่ต้องตัดออกมากอาจจะต้องมีแผลผ่าตัดต่อยาวออกมาทางด้านหางตาด้วย  ส่วนใหญ่แผลผ่าตัดบริเวณใต้ขนตาจะเลือนหายไปในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ส่วนแผลผ่าตัดทางด้านหางตาจะค่อยๆเลือนไปตามเวลา แต่อาจจะยังคงมองเห็นได้บ้าง หลังการผ่าตัดควรจะทำการประคบด้วยน้ำแข็งประมาณ 48-72 ชั่วโมง และควรนอนหัวสูงเพื่อให้ยุบบวมเร็วขึ้น
            การลดไขมันใต้ตาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แต่สามารถทำได้ด้วยการดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ เพราะผิวหนังบริเวณรอบดวงตานั้นมีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ รักษายาก ดังนั้นเราควรเอาใจใส่ตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อรักษาผิวบริเวณใต้ดวงตาให้ดูสุขภาพดี ไร้ไขมัน แต่ก็ยังมีวิธีอีกหลายวิธีข้างต้นที่นำเสนอให้คนที่ประสบปัญหานี้ได้ลองทำตามกันดู เพื่อดูแลรักษาผิวหนังรอบดวงตาให้สวยงามและไร้ไขมัน
  ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  www.beauty24store.com

มาทำความเข้าใจกับวิธีลดไขมันใต้ตากันเถอะ

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์