สิวหิน สิวข้าวสาร รู้ทันสาเหตุและวิธีรักษา เพื่อผิวหน้าเรียบเนียน


สิวหิน สิวข้าวสาร รู้ทันสาเหตุและวิธีรักษา เพื่อผิวหน้าเรียบเนียน

สิวหิน สิวข้าวสาร
สิวหิน สิวข้าวสาร ดูๆ แล้วเราอาจรู้สึกว่ามันมีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็กสีขาวๆ เหมือนๆกัน แต่อันที่จริงแล้วสิวหิน สิวข้าวสารไม่ใช่สิวชนิดเดียวกัน และไม่ได้อันตรายหรือเป็นสาเหตุของเนื้องอกอันตรายแต่อย่างใด

โดยสิวหินและสิวข้าวสาร มักจะมีขนาดเล็กกว่าสิวอักเสบทั่วไป และไม่มีติ่งที่ยื่นออกจากผิวเหมือนเนื้องอก และต่างจากซีสต์โดยที่เวลาจับสิวหิว สิวข้าวสารจะมีลักษณะแข็งกว่าซีสต์

สิวหิน : สาเหตุ อาการ การรักษา

สิวหิน (Syringoma) อาจเรียกได้ว่าเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่ง แต่เป็นชนิดที่ไม่ร้ายแรงซึ่งจะไม่กลายเป็นมะเร็ง โดยจะมีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆขนาดประมาณ 1- 3 มม. มักจะมีสีขาวหรือสีเดียวกับผิวเรา มักขึ้นบริเวณใต้ตา และโหนกแก้ม เวลาจับสิวหิน เราจะรู้สึกได้ว่าเป็นสิวนั้นเป็นเม็ดแข็งๆ ไม่มีอาการอื่นๆ ไม่เจ็บหรือปวดและไม่สามารถกดออกได้

สิวหินมีสาเหตุจากผิวหนังผลิตเซลล์ต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังมากเกินไปจนเกิดการอุดตันรูขุมขนใต้ชั้นผิวหนังที่ค่อนข้างลึกจึงทำให้กดออกไม่ได้นั่นเอง โดยสาเหตุที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เซลล์ของต่อมเหงื่อผลิตมากขึ้นจนเกิดสิวหิน ได้แก่ พันธุกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักโดยอาจสังเกตได้ว่าหากใครคนหนึ่งในครอบครัวเป็นสิวหิน คนอื่นๆ ก็มักจะมีสิวหินด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็มีโอกาสง่ายเช่นกัน หรืออาจมีสาเหตุมาจากเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคอลลาเจน เช่น Marfan's syndrome, Ehler-Danlos syndrome เป็นต้น

การรักษาสิวหินทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ยากลุ่ม Isotretinoin ซึ่งวิธีนี้ในบางกรณีอาจไม่เห็นผล หรือใช้วิธีการผ่าเปิดเอาสิวหินออก แต่วิธีนี้ก็อาจทำให้หลงเหลือรอยแผลบนใบหน้าค่อนข้างเยอะ และวิธีการเลเซอร์ วิธีการนี้เป็นการรักษาที่นิยมมาก เพราะเห็นผลดีและมีรอยแผลไม่มาก และการจี้ด้วยกระแสไฟฟ้า ซึ่งหลังทำการรักษาแล้ว สิวหินมักไม่เกิดซ้ำตำแหน่งเดิม แต่ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในตำแหน่งอื่นๆ บนใบหน้าได้อีก

สิวข้าวสาร : สาเหตุ อาการ การรักษา

สิวข้าวสาร (Milia) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ขนาด 1 มม. มีสีเหมือนกับผิวหนังของเรา และมักไม่มีอาการอื่นๆ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และเวลาจับไม่ค่อยรู้สึก

สิวข้าวสารมักขึ้นบริเวณเปลือกตา ใต้ตา โหนกแก้ม โดยสาเหตุเกินจากKeratin หรือขี้ไคลที่อยู่บนชั้นผิวเกิดการสะสมและอุดตันอยู่ภายใต้ชั้นผิว

การป้องกันไม่ให้เกิดสิวข้าวสารนั้นทำได้ไม่ยาก คือการดูแลรักษาความสะอาดผิวหนังของเราให้สะอาด ยกเว้นในกรณีที่เกิดในเด็กเล็ก สิวข้าวสารอาจจะหายไปได้เองตอนโต

ส่วนการรักษาสิวข้าวสารนั้นสามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองได้ เช่น การสครับผิวหน้าเบาๆ ให้สะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อาจใช้สครับสูตรธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทรายผสมกับน้ำผึ้ง หรือโฟมล้างหน้าสูตรสครับก็ได้ เพียงแต่ต้องทำอย่างเบามือ และหากมีอาการแพ้ ระคายเคืองควรหยุดพักและพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ควรเลี่ยงครีมทาหน้าที่มีน้ำมันเพิ่มความมันบนใบหน้ามากเกินไป หลีกเลี่ยงแสงแดด ใช้ครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องเผชิญแดด และดูแลรักษาความสะอาดใบหน้าให้หมดจดเสมอหลังจากแต่งหน้าหรือทาครีมกันแดด

หากสิวข้าวสารมีการสะสมตัวมากๆ ใช้วิธีการสครับแล้วไม่ได้ผล ไม่สามารถกำจัดออกเองได้ ก็สามารถมาพบแพทย์เพื่อทำการจี้ออกด้วยไฟฟ้าหรือเลเซอร์ได้เช่นกัน ซึ่งได้ผลปลอดภัยและหายขาดถาวร โดยจำเป็นต้องเลือกสถาบันความงามหรือสถาบันทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์