การกัดเล็บ
อุปนิสัยและความเครียดอาจเป็นตัวกระตุ้นให้คนเราเริ่มมีพฤติกรรมกัดเล็บ ในบางกรณีการกัดเล็บอาจก่อปัญหารุนแรงและลุกลามจนกลายเป็นการติดเชื้อ หรือเนื้อเยื่อเสียหาย เป็นต้น หากคุณไม่สามารถหยุดพฤติกรรมนี้ได้ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ คุณควรอาศัยความอดทนและการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆเพื่อหยุดพฤติกรรมกัดเล็บ อย่างไรก็ตามเรามีเคล็ดลับที่มีประโยชน์ในการหยุดพฤติกรรมดังกล่าว
-ยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ ก่อนจะกัดเล็บควรหักห้ามใจไว้ก่อน ครั้งแรกอาจจะไม่กี่วินาทีจากนั้นก็เพิ่มเป็นนาทีและเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ หากจำเป็นคุณควรตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้ด้วย
-ลองใช้ผ้าพันแผลปิดเล็บไว้เพื่อเตือนใจ วิธีนี้จะช่วยยืดเวลาออกไปเพื่อให้คุณมีสติและไม่กัดเล็บในที่สุด
-นอกจากนี้ยาทาเล็บที่รสชาติแปลกๆ ก็สามารถยับยั้งการกัดเล็บได้ด้วย
การม้วนผม
การกระทำต่างๆ เช่น ม้วนผม แปรงผม และบิดผม อาจนำไปสู่โรคหยุดถอนผมตัวเองไม่ได้ ปัจจัยที่ทำให้ผมหลุดร่วงรุนแรงอาจเริ่มต้นจากการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การม้วนผม ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งดูทีวีหรือนั่งเรียน และพฤติกรรมนี้ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วยอัตราส่วนประมาณ 4 ต่อ 1 การม้วนผมและดึงผมซ้ำๆต่อเนื่องอาจทำให้เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่หยิกมากกว่าเดิม และเมื่อกระทำติดต่อกันในระยะยาวก็จะสร้างความเสียหายให้กับต่อมรากผมซึ่งทำให้อัตราการงอกใหม่ของเส้นผมลดลง
-การรักษาอย่างต่อเนื่องนั้นมีประโยชน์ การแก้ไขปัญหาทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น
-หาแรงกระตุ้นให้เจอ พร้อมกับหาวิธีแก้ไข
-สวมถุงมือ ขณะอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือคุยโทรศัพท์
-ใช้ลูกบอลบำบัด ซึ่งมักจะนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูสภาพมือหลังจากการผ่าตัดมือ
การเกาผิวหนัง
ความผิดปกติของการเกาผิวหนังหรือโรคหยุดเกาไม่ได้เป็นพฤติกรรมของผู้ที่ติดนิสัยการเกาโดยเฉพาะบนใบหน้าหรือตามนิ้วมือ นอกจากนี้การหาตัวเลขทางสถิติที่ถูกต้องของคนที่ป่วยเป็นโรคเกาก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากความรุนแรงของมันมักจะถูกซ่อนไว้ด้วยโรคผิวหนัง เช่น สิวและกลาก นอกจากนี้วิธีการรักษาก็มีอยู่น้อยนิดเหลือเกิน บางคนพยายามที่จะเลือกรักษาการเกาด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็พบว่าไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องหาวิธีการรักษาแบบมืออาชีพ วิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกต "ความรุนแรงและความถี่ของพฤติกรรม"
หากคุณรู้สึกเครียดและสังเกตว่าตัวเองมีพฤติกรรมการใช้นิ้วแกะเกาประมาณสองวันในรอบหนึ่งเดือน นั่นอาจยังไม่ใช่ปัญหาที่รุนแรงนัก แต่ถ้าคุณสังเกตว่าพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นทุกวันและลุกลามจนกลายเป็นการติดเชื้อหรือแผลเป็น ตอนนี้แหละที่คุณเริ่มเป็นห่วงได้แล้ว