ขาหนีบดำ อดปัง หมดความมั่นใจ แก้ไขยังไงดี ?
สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น
เกิดจากการเสียดสี ของต้นขาทั้ง 2 ข้าง ถ้าเกิดการเสียดสีบริเวณขาหนีบเป็นเวลานาน จะมำให้ผิวหน้า ด้าน และเกิดสีหมองคล้ำ เนื่องจากเซลล์ผิวหนังจะจับตัวกันมากขึ้นเป็นผื่นแข็ง
โรคผิวหนังช้าง มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน เนื่องจากในร่างกายมีสารอินซูลินเยอะจนเกินไป ทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีมากขึ้นจนทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวดูหมองคล้ำ
การตั้งครรถ์ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้ผิวบริเวณต่างๆมีสีที่เข้มขึ้น เช่น หัวนม ริมฝีปาก รวมถึง ขาหนีบด้วย
ยาคุมกำเนิด, ยารักษาไทรอยด์, โกรทฮอร์โมน ยาจำพวกนี้จะมีผลข้างเคียงที่กระทบต่อเม็ดสีผิวในร่างกาย
ทาครีมบำรุง หรือ ปิโตรเลียมเจล ที่ขาหนีบเพื่อลดการเสียดสีบริเวณง่ามขาได้เป็นอย่างดี
ทาแป้งเพื่อป้องกันความอับชื้น แถมยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของเชื้อรา ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้จะทำให้ผิวชั้นนอกอักเสบ และเกิดอาการหมองคล้ำ
สวมใส่กางเกงที่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่ว่าจะเป็นกางเกงชั้นนอก หรือชั้นใน ไม่ควรใส่กางเกงที่รัดจนเกินไป เพราะกางเกงที่รัดจนเกินไปจะทำให้ขาหนีบของเราเสียดสีกับเนื้อผ้าทำให้เกิดอาการอักเสบ
ควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินอี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว เนื้อสัตว์ ปลา ผัก และเราควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเพื่อให้ขาหนีบกระชับ ลดการเสียดสีของผิวหนัง
ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ การผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไป การใช้ครีมขัดผิว หรือใช้สมุนไพรธรรมชาติ เช่น ผงขมิ้น น้ำมะนาว มะขามเปียก อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
ทาครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง และกรดจากผลไม้ (Alpha Hydroxy Acids) ซึ่งสารเหล่านี้จะไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิแนส (Tyrosinase) ที่มีหน้าที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิว ให้ผิวของเราดูกระจ่างใสขึ้น แต่วิธีนี้สาวๆอาจต้องใช้เวลานานซักนิดกว่ารอยคล้ำจะจางหายไป
เลเซอร์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถรักษาขาหนีบดำได้ในเวลาอันรวดเร็ว การใช้แสงที่มีความถี่และคลื่นแสงที่เข้มข้นจะช่วยไปยับยั้งเม็ดสีบริเวณดังกล่าว
การรักษาด้วย IPL (Intense Pulse Light) เป็นการรักษาที่ใช้ความยาวและความถี่เข้มข้นกว่าเลเซอร์ IPL มีความยาวคลื่นอยู่ใน 420 นาโนเมตร (nm) ถึงความยาวคลื่น 1,200 นาโนเมตร (nm) ซึ่งกลไกการทำงานจะมีลักษณะเดียวกับแสงเลเซอร์
การรักษาด้วยไอออนโตฟอรีซิส ( Iontophoresis ) การใช้กระแสไฟฟ้าต่ำควบคู่กับการเติมวิตามินเข้าไปใต้ผิวหนัง การใช้กระแสไฟฟ้าจะทำให้รูขุมขนขยายตัวขึ้น และเมื่อมีการใช้คู่กับวิตามินจะทำให้วิตามินซึมซาบเข้าไปใต้ผิวดียิ่งขึ้น