4 เคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัย ตามสไตล์สาวญี่ปุ่น
เวลาเราแสดงอารมณ์ สีหน้านี่แหละ เป็นหนึ่งในสาเหตุแห่งริ้วรอยที่ไม่รู้ว่ามาตอนไหน ยิ้มไปยิ้มมา หัวเราะ ร้องไห้ มารู้ตัวอีกที ทั้งรอยย่นบนหน้าผาก ตีนกา หรือร่องแก้ม ก็มาเต็ม มีให้เห็นชัดๆบนใบหน้าไปแล้ว จนถูกทักว่าอายุมากกว่าอายุจริง จนเราขาดความมั่นใจไปง่ายๆ นอกจากการแสดงอารมณ์สีหน้า อีกสาเหตุนึงที่สำคัญคือ "อนุมูลอิสระ" ที่มาจาก ควันรถ ควันจากปิ้งย่าง ควันบุหรี่ ความเครียด รังสียูวี ซึ่งเป็นอะไรที่เราต้องเจอทุกวันนี่แหละ ทำให้ร่างกายเราเสื่อม ดูแก่กว่าวัย ผิวแห้ง ขาดน้ำ
ถ้าแค่ทาครีมบำรุงยังไม่พอ ก็ขอใช้ตัวช่วยด้วยอาหารเสริมที่บำรุงตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ทั้งการกินและการพักผ่อน กินอาหารให้ครบวันละสี่มื้อ ดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำจะช่วยขับสารพิษ และช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น ที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงภายในสู่ภายนอก
กินลดริ้วรอย ให้เลือกทานอาหารตระกูลผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ผักใบเขียว ถั่ว น้ำมันมะกอก สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส ซ่อมแซมร่างกายที่เสื่อมโทรม รักษาความแข็งแรงของเซลล์ผิวคืนความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากมลภาวะระหว่างวันได้อีกด้วย
Cleansing Face
กินลดสิว เราควรเริ่มต้นรักษาอย่างตรงจุดโดยเริ่มจากการควบคุมเรื่องอาหาร เพราะอาหารบางชนิดเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ เช่น ขนมหวาน ของมัน ของทอด น้ำหวาน เราควรที่จะเปลี่ยนมารับประทาน ผักผลไม้ อาหารประเภทที่ย่อยง่ายเพื่อให้ขับถ่ายสะดวก ไม่ทานอาหารรสจัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กินลดบวม เคยสังเกตุตัวเองหรือไม่เสื้อผ้าบางทีเดี๋ยวคับเดี๋ยวหลวม อาการนี้อาจจะไม่ใช่อ้วนขึ้นก็ได้แต่อาจเป็นการบวมน้ำ นอกจากผู้หญิงจะบวมในช่วงวันนั้นของเดือนแล้ว การทานอาหารรสจัด อาหารที่มีแก๊สเยอะ ท้องผูกเป็นประจำ ดื่มน้ำน้อย ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการบวมได้ วิธีแก้ง่ายๆ คือ ควรเลือกกินอาหารที่ทีโพแทสเซียมสูง วิตามินอีสูง และดื่มน้ำสะอาดวันละ 6 - 8 แก้ว ลดการทานอาหารรสจัด ออกกำลังกายเป็นประจำ
ทั้งนี้เราควรพักผ่อนให้เพียงพอ เข้านอน ตั้งแต่ 22.00 น. และไม่เกิน 23.00 น.จะดีมาก เพราะคุณหมอด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยก็เคยออกมาพูดว่า ช่วงเวลา22.00 - 01.00 น. ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone มากที่สุด ทำให้เราได้สารตัวนี้เต็มที่ เพื่อซ่อมแซมร่างกายและผิว
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนต้องเคยใช้ คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel) กันแน่ ๆ แต่รู้มั้ยว่าถ้าอยากจะให้สะอาดหมดจด เราต้องทำให้คลีนซิ่งอุ่นก่อน มันถึงจะทำความสะอาดได้แบบล้ำลึก เพราะพอคราบเครื่องสำอาง และไขมันบนหน้าโดนอากาศเย็น มันจะเเข็งตัว จับกันเป็นก้อน ทำให้ผิวอุดตัน แล้วไปขัดขวางการซึมซับวิตามินในครีมบำรุง เป็นสาเหตุที่ทำให้บำรุงเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผลไง
เคล็ดลับของขั้นตอนการใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดใบหน้า คือ บีบคลีนซิ่งเจลลงบนมือที่แห้ง นวดให้รู้สึกอุ่นเท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย (ประมาณ 32 - 34 องศาเซลเซียส) ซึ่งความอุ่นจะช่วยละลายคราบไขมันให้หลุดได้ง่ายขึ้น หรือ จะทำให้มืออุ่นก่อนเทคลีนซึ่งเจลก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้การล้างหน้าสะอาดมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่แนะนำจะเป็น M-DEAR Speedy Cleansing Gel ตัวนี้เลย ได้รับการการันตีจากโรงพยาบาลผิวหนังและคลิกนิกที่ญี่ปุ่นด้วย โดยเจ้า Cleansing Gel ตัวนี้ก็นอกจากจะสามารถล้างเครื่องสำอางได้แล้วยังชำร้ะลางสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูปขุมขนให้สะอาดล้ำลึกและไม่แห้งตึงผิว เมื่อใช้ไปสักพักเราก็ลืมไปเลยว่าเคยเป็นสิวเสี้ยน สิวอุดตัน ไม่เชื่อก็ต้องลองกันนะคะ
สครับผิวใครว่าไม่สำคัญ เพราะเซลล์ผิวที่ตายแล้วเนี่ย ล้างออกจากหน้าได้ไม่หมด มันจะสะสมอยู่บนหน้า ทำให้หน้าของเราหมองคล้ำ และแถมยังอุดตัน ทำให้ครีมบำรุงซึมยากขึ้น เราก็เลยต้องกำจัดเจ้าขจัดเซลล์ผิวที่ตายออก ประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่การสครับผิวหน้าด้วย เกลือหรือน้ำตาลก็ยังหยาบเกินไปต่อผิวหน้าอันบอบบางของเรา วิธีที่สาวญี่ปุ่นชอบใช้นั่นคือการ สครับหน้าด้วยฟองโฟมนุ่มๆ โดยที่นิ้วมือแทบไม่ต้องสัมผัสลงน้ำหนักที่ผิวหน้าเลย ก็ช่วยลดการเกิดริ้วรอยได้ด้วย โดยผลิตภัณฑ์ที่มีฟองโฟมนุ่มและอ่อนโยน แต่ประสิทธิภาพสูง ก็เห็นจะมี M-DEAR Whip Wash ที่เป็นเวชสำอางจากญี่ปุ่น โดยเนื้อสัมผัสนุ่มแน่น ละเอียดไม่บาดผิว แถมยังไม่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน มิเนรัลออย และสารแต่งเติมสี ด้วยสารพวกนี้ก่อนให้เดิการระคายเคืองได้ง่าย เพราะฉะนั้น สาวๆที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมั่นใจได้เลยว่า ใช้ได้หายห่วงแน่นอน
เคล็ด 4 บำรุงผิวด้วยสกินแคร์คุณภาพสูงแต่อ่อนโยนต่อผิว
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงช่วยชะลอทั้งวัยและให้ผิวกระจ่างใส และเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสาวๆญี่ปุ่น ก็คงจะไม้พ้นสารสกัดจากจมูกกระดูกอ่อนปลาแซลมอนที่ชื่อ โปรติโอไกลแคน ซึ่งมีอยู่ในOvernight Treatment Serum
ของแบรนด์M-DEAR อีกตัวที่แนะนำ นั่นคือ PG Creamy Serum ตัวนี้รจะช่วยเร่งการผลิตไฮยาลูรอน และคอลลาเจน ยับยั้งเม็ดสีเมลานิน เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว กักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้ดีและมากกว่าไฮยาลูลอนถึง 130%
และนอกจากนี้ยังมี Hyaluronic Acid 3 ชนิด: ช่วยเข้าบำรุงและรักษาให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้อย่างทั่วถึง ในแต่ละชั้นผิวย่อยของผิวชั้นนอก รวมทั้ง Tocopherol วิตามินอีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และ กระตุ้นการทำงานของเซลล์