เราทราบหรือไม่ว่า นอกเหนือไปจากประเภท (Type) และความเข้มข้น (Intensity) ของการออกกำลังกายเเล้ว #ระยะเวลาที่เราใช้ออกกำลังกาย (Duration of exercise) ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นเดียวกัน เนื่องมาจากการออกกำลังกายให้เกิดผลดีต่อร่างกาย และทำให้กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการชะลอวัยได้นั้นจำเป็นต้องมีช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ปัจจุบันเรารู้ว่า การออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนได้ดีที่สุด คือ #ระยะเวลาที่ไม่เกิน 60 นาที. (Peak สุด ที่ 35 - 45 นาทีเเรกของการออกกำลังกาย) เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ Anabolic hormones (ฮอร์โมนเสริมสร้าง) ต่าง ๆ เช่น Growth Hormone (GH) Testosterone หลั่งออกมามาก ซึ่งเป็นผลดีต่อร่างกายเราให้หลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อ
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น จะเป็นช่วงที่ร่างกายของเราฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่มีการบาดเจ็บในระดับเล็ก ๆ (Micro injury) ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในการออกกำลังกาย โดยร่างกายจะเริ่มการหลั่ง #ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งเป็น Catabolic hormone (ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสลาย) คอลติซอล จะพีคอยู่ในร่างกายของเราช่วงหนึ่งหลังออกกำลังกายประมาณ 24 ชม. (ช่วงนี้เราจึงควรพัก ไม่ควรไปออกกำลังกายติดต่อกันเพราะจะยิ่งทำให้ คอร์ติซอลพุ่งกระชูดขึ้นไปอีก)
หลังจากนั้น GH และ Testosterone จะหลั่งออกมาอีกครั้ง ถือเป็นช่วงที่ร่างกายของเราจะสร้างโปรตีน สร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมเเซมร่างกายในส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ฮอร์โมนดังกล่าวนี้จะสูงอยู่ต่อเนื่องประมาณ 24 ชม.เช่นเดียวกัน (ตามรูปที่เเนบมาให้ดูด้านล่างนะครับ) ช่วงนี้จึงควรเป็นช่วงที่เราควรพักผ่อนและทานอาหารที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อก็ควรเสริมอาหารจำพวกโปรตีนเข้าไปนั้นเอง
เพราะฉะนั้น เราจึงได้คำตอบว่า ทำไมเราจึงควรวางแผนการออกกำลังกายแบบวันเว้นวัน (เท่ากับได้พัก 48 ชม.) เพราะจะเป็นการปรับสภาพร่างกายของเราเองตามวงจรฮอร์โมนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม อาจมีบางคนที่ออกกำลังกายติดต่อกัน แล้วจึงหยุดในวันถัดไปก็ได้ และพบว่าร่างกายก็เเข็งแรงดี ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย สร้างกล้ามเนื้อได้ดี ทั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นสภาพร่างกายและความเคยชินในเเต่ละตัวบุคคลไป ฮอร์โมนก็จะปรับตาม