ส่องสาเหตุหน้าพัง ทำให้ต้องเดินเข้าคลินิกรักษาฝ้า!


ส่องสาเหตุหน้าพัง ทำให้ต้องเดินเข้าคลินิกรักษาฝ้า!


   ‘ฝ้า' ถือเป็นปัญหาผิวหน้าที่ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่อยากเจอ เพราะหากเป็นแล้ว บอกเลยว่ารักษายากสุด ๆจะทาครีมอะไรก็ยากที่จะกลับไปมีผิวหน้ากระจ่างใสเหมือนเดิม เป็นสาเหตุให้หลายคนต้องยอมลงทุนเดินเข้าคลินิกรักษาฝ้าเพื่อใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาดูดีเหมือนตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว

   แต่ก่อนจะก้าวเท้าเข้าคลินิกรักษาฝ้า จะดีกว่าไหมหากเราได้รู้ว่าฝ้ามีกี่แบบ และเกิดจากอะไร เพื่อหาแนวทางป้องกันเอาไว้ก่อนผิวหน้าจะมีปัญหาจนยากจะเยียวยา แล้วถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กลัวการเป็นฝ้า ต้องไม่พลาดบทความนี้!



ส่องสาเหตุหน้าพัง ทำให้ต้องเดินเข้าคลินิกรักษาฝ้า!


ฝ้ามีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

      ฝ้าเป็นภาวะที่เซลล์เม็ดสีในผิวหนังทำงานหนักผิดปกติ จึงทำให้ปริมาณเม็ดสีผิวหรือเมลานีนเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดรอยสีน้ำตาลหรือสีดำเป็นปื้นขึ้นบนผิว มักเกิดในบริเวณหน้าผาก แก้ม จมูก เหนือริมฝีปากบน และกราม ไม่ใช่โรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ไม่น้อย โดยฝ้าสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

• ฝ้าแดด เกิดจากการสัมผัสกับรังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด รวมทั้งแสงจากหน้าจอต่าง ๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน

• ฝ้าเลือด เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของระบบเลือดลมและฮอร์โมนในร่างกาย และยาที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยทำงานผิดปกติ

• ฝ้าตื้น เกิดในชั้นผิวระดับหนังกำพร้าหรือผิวชั้นนอก เห็นชัด เกิดได้ง่าย แต่ก็รักษาได้ง่ายเช่นกัน

• ฝ้าลึก เป็นความผิดปกติในผิวชั้นหนังแท้ มีสีอ่อน เห็นไม่ชัดเพราะอยู่ในผิวชั้นลึก แต่รักษาได้ยาก

สาเหตุการเกิดปัญหาผิวจนต้องมองหาคลินิกรักษาฝ้า

1. พันธุกรรมและอายุ

     ถือเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวจนต้องเดินเข้าคลินิกรักษาฝ้าเลยก็ว่าได้ สำหรับพันธุกรรมและอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวขาดความชุ่มชื้นและอ่อนแอลง ทำให้เป็นฝ้าได้ง่าย ส่วนพันธุกรรมก็เป็นปัจจัยที่มีส่วนกำหนดเรื่องความไวของเซลล์สร้างเม็ดสี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าด้วยเช่นกัน

2. แสงแดดและรังสียูวี

    แดดและรังสียูวี ทั้งยูวีเอและยูวีบีเป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นกระบวนการสร้างเม็ดสีในชั้นผิว เร่งให้เกิดฝ้าบนใบหน้า รวมทั้งยังทำให้เซลล์ผิวถูกทำลายจนลุกลามไปถึงมะเร็งได้ในอนาคต

3. ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล

     ผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิด ตั้งครรภ์ หรือเข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือนมักมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่อนข้างมาก ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ จึงเป็นที่มาของการเกิดฝ้าได้อีกสาเหตุหนึ่ง

4. ผลข้างเคียงจากโรคและการใช้ยา

    โรคประจำตัว เช่น โรคที่เกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ รวมทั้งการใช้ยาบางชนิด อย่างยาคุมกำเนิดและยากันชัก ก็เป็นตัวการในการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีจนเกิดเป็นฝ้าบนใบหน้าได้ หากเจอปัญหานี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะปลอดภัยที่สุด

     สำหรับใครที่ไม่อยากเป็นฝ้าจนต้องหันหน้าไปพึ่งคลินิกรักษาฝ้า สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเจอแดด เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าได้แล้ว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์