เราคงจะปฏิเสธกันไม่ได้ใช่ไหมคะ ว่าผิวที่ดูขาวกระจ่างใสนั้นเป็นเทรนด์ที่นิยมตลอดกาลสำหรับประเทศไทยจริงๆ ไม่ว่าจะเลือกเสื้อผ้าให้เข้าชุดกันก็ง่าย การเป็นจุดดึงดูดความสนใจต่อเพศตรงข้าม รวมถึงการสร้างความประทับใจแรกพบต่อการสมัครงานด้วย ทั้งที่แดดบ้านเราก็พร้อมจะแผดเผาให้ผิวไหม้เกรียมได้ตลอดเวลา แต่การดูแลผิวให้ขาวใสนั้นไม่ยากเลยค่ะ ด้วยวิธีที่เป็นธรรมชาติและสามารถปฏิบัติได้ทุกวัน
9 สูตรลับผิวขาวกระจ่างใส ใครๆก็ทำได้
เราคงจะปฏิเสธกันไม่ได้ใช่ไหมคะ ว่าผิวที่ดูขาวกระจ่างใสนั้นเป็นเทรนด์ที่นิยมตลอดกาลสำหรับประเทศไทยจริงๆ ไม่ว่าจะเลือกเสื้อผ้าให้เข้าชุดกันก็ง่าย การเป็นจุดดึงดูดความสนใจต่อเพศตรงข้าม รวมถึงการสร้างความประทับใจแรกพบต่อการสมัครงานด้วย ทั้งที่แดดบ้านเราก็พร้อมจะแผดเผาให้ผิวไหม้เกรียมได้ตลอดเวลา แต่การดูแลผิวให้ขาวใสนั้นไม่ยากเลยค่ะ ด้วยวิธีที่เป็นธรรมชาติและสามารถปฏิบัติได้ทุกวัน
หลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด
การสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย กางร่มกันแดด หรือการเดินหลบแสงแดดตามใต้อาคาร ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีทุกวิธีค่ะ เนื่องจากรังสียูวีเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวเราได้รุนแรงที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 - 15.00 น. ของบ้านเรานั้น มีค่ารังสียูวีสูงที่สุดหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาอื่น ดังนั้นจึงควรหาวิธีหลีกเลี่ยงที่จะรับแสงแดดโดยตรง
ใช้ครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
ในเมื่อบ้านเราเป็นเมืองร้อนและยากที่จะหลบเลี่ยงแล้ว ครีมกันแดดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันรังสียูวีมาทำลายผิวเราให้คล้ำเสีย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ค่า PA+++ และมีส่วนผสมของสารกันแดดที่เสถียรพอสมควรด้วย ครีมกันแดดนั้นถึงจะมีประสิทธิภาพป้องกันแสงแดดได้เป็นอย่างดี เช่น สารไททาเนียมไดออกไซด์ ซิงค์ออกไซด์ โดยทาซ้ำทุกชั่วโมงเมื่ออยู่ในที่ที่มีแดดจัดหรือว่ามีเหงื่อออกจำนวนมาก จะช่วยให้ผิวเราไม่ไหม้และดูแก่ก่อนวัย
ทาโลชั่นไวท์เทนนิ่งอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีดูแลผิวให้ขาวที่ดีวิธีหนึ่ง
เลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารบำรุงช่วยให้ผิวขาวขึ้น เช่น วิตามินบีสามหรือไนอาซินาไมด์ วิตามินซี วิตามินอี โคเอนไซม์คิวเท็น อัลฟาอาร์บูติน สารสกัดจากเปลือกสน และสารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ โดยใช้ปริมาณที่มากพอสำหรับพื้นที่ผิวแต่ละส่วน เพื่อการดูดซับสารบำรุงแล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง แต่เราไม่ควรทาครีมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวในเวลากลางวัน ตัวอย่างเช่น กรดผลไม้หรือที่เรียกกันว่า AHA เนื่องจากจะทำให้ผิวไวต่อแสงแล้วเป็นผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ
ขัดผิวด้วยสมุนไพรธรรมชาติ อีก 1 สูตรลับผิวขาวกระจ่างใส
มะขามเปียก ขมิ้นชัน และนมสด เป็นของธรรมชาติที่ช่วยขัดขี้ไคลและผลัดเซลล์ผิวให้ขาวขึ้น นำส่วนผสมมาคลุกเคล้าในภาชนะกระเบื้องหรือแก้ว ห้ามใช้พลาสติกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำปฏิกิริยากับพลาสติกแล้วเป็นพิษได้ สูตรนี้ประยุกต์มาจากตำรับชาววัง แต่สามารถหาได้ง่ายตามทั่วไป เมื่อส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้ขัดพอกที่ผิว เน้นตรงบริเวณซอกหลืบ ทาทิ้งไว้ 5 - 10 นาที จนรู้สึกว่าสมุนไพรแห้งหมาดๆ แล้วล้างออก ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
ออกกำลังกายให้ผิวขาวอย่างถาวร
เรามักสังเกตเห็นว่า ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะดูหนุ่มสาวและมีผิวที่ใสดูอ่อนกว่าวัยมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ นั่นเป็นเพราะว่าการออกกำลังช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น เร่งผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผิวจึงเปล่งปลั่ง ขาวใส ดูมีเลือดฝาด และได้สุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย โดยลองสังเกตตัวเองง่ายๆ ค่ะ เมื่อออกกำลังกายจนอุณหภูมิในตัวสูงขึ้นและมีเหงื่อออก เราจะสามารถขัดขี้ไคลตามแขนขาได้ง่ายนั่นเอง
ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว จำพวกวิตามินซี วิตามินอี คอลลาเจน เบต้าแคโรทีน ไบโอฟลาโวนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งหาได้ง่ายจากอาหารบ้านเรา เช่น ปลาทะเล ผักสด ส้ม แครอท แตงโม มะละกอ มะเขือเทศ และผลไม้สด ช่วยให้ผิวค่อยๆ ขาวกระจ่างใสขึ้นจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สูตรผิวสวย ขาวกระจ่างใส สุขภาพดีด้วยการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
น้ำเปล่ามีคุณประโยชน์มากน้อยแค่ไหนวันนี้เรามีคำตอบสำหรับเรื่องน้ำ แน่นอนค่ะว่าหลายๆท่านนั้นจะต้องทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญๆของร่างกายเรารวมถึงยังส่งไปเลี้ยงสมองและดำรงชีพ หากขาดน้ำ ขาดสารอาหารก็สามารถตายได้ เพราะฉะนั้นแล้วน้ำและอาหารจึงจำเป็นต่อร่างกายซึ่งก็รวมถึงอากาศบนโลกใบนี้ด้วยเช่นกันมนุษย์นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง เพราะฉะนั้นจะต้องมีการดูแลตัวเองให้ดี และทราบไหมคะว่าน้ำนั้นช่วยสร้างผิวขาวใสอมชมพูให้เราได้ ถึงแม้ว่าเรานั้นจะดำแค่ไหนหรือว่าผิวแทน แต่หากมีการดื่มน้ำเยอะๆถึงผิวจะแทนก็แทนเนียนละเอียด ผิวไม่แห้งและก็ผิวนุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย ในร่างกายของคนเรานั้นประกอบไปด้วยน้ำกว่า 80% ด้วยกัน โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นน้ำที่เรานั้นดื่มเข้าไปต่อวันต่อวันเพื่อดำรงชีพ มันรวมผสมกับเลือดซึ่งก็นำมาใช้เหมือนการปั่นไฟ ปั่นพลังงานให้แก่ร่างกายต้องมีการเติมน้ำมันเข้าร่างกายทุกๆวัน เพราะฉะนั้นวันไหนที่ขาดน้ำมัน เชื้อเพลิงก็ย่อมหมด หรือมีการทำงานที่น้อยลงและช้ากว่าเดิม ไม่รวดเร็วและไม่คงทนเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเราเปรียบเทียบให้คุณนั้นเห็นว่า น้ำจำเป็นต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน สำหรับน้ำนั้นยังช่วยสร้างผิวขาวได้อีกด้วยในผู้ที่มีผิวขาวอยู่แล้ว แต่มักจะมีผิวแห้งหรือในผู้ที่อยากจะมีผิวขาวแต่ไม่รู้จะเริ่มดูแลตัวเองจากตรงไหน แนะนำการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกค่ะ เทคนิคการดูแลตัวเองนั้นก็ไม่ยากเพียงแค่ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นอย่างต่ำหรือราวๆวันละ 2 ลิตรต่อวันก็ช่วยเรื่องผิวสวยขาวกระจ่างใสได้แล้ว อยากจะมีผิวขาวมันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรเลยเพียงแค่รู้จักที่จะดูแลตัวเองเท่านั้นคุณก็มีผิวขาวได้ สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอและปริมาณ ยิ่งดื่มน้ำเยอะมากเท่าไหร่ยิ่งดีต่อร่างกายในช่วงแรกๆนั้นอาจจะปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แต่เมื่อร่างกายได้รับน้ำเยอะๆก็จะเป็นปกติไม่มีการปัสสาวะบ่อยๆมากเกินไป พอร่างกายปรับตัว อาการปัสสาวะถี่ก็จะหายไป เปลี่ยนเป็นการสร้างผิวพรรณที่ดี และเติมเต็มน้ำให้กับร่างกาย น้ำนั้นยังต้องนำมาเลี้ยงสมองอีกด้วยเพราะฉะนั้นแล้วน้ำจึงจำเป็นและสำคัญต่อการดำรงชีวิตมากๆ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนสำคัญๆในการนำไปเลี้ยงสมองด้วยดังนั้นเราจะต้องดื่มน้ำเยอะๆนะคะถ้าอยากจะมีผิวดี สุขภาพแข็งแรงและใช้งานสมองได้เยอะๆ ในผู้ที่ทำงานพนักงานออฟฟิศแนะนำว่าให้ดื่มน้ำเยอะๆมากกว่ากาแฟ กาแฟนั้นมีส่วนเร่งกระตุ้นประสาททำให้ดีดก็จริงหลายๆคนนั้นคิดว่า การดื่มกาแฟนั้นจะช่วยกระตุ้นต่อมทำงานได้ดีกระปรี้กระเปร่าแต่ก็เท่านั้นค่ะเป็นการฝืนตัวเองเป็นการโดฟอย่างนึง พอฤทธิ์กาแฟหมด พลังงานคุณก็จะหมด เพลียเหนื่อยไปด้วยเช่นกัน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับท่านที่อยากผิวสวย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
อยากผิวสวยไม่ควรนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่และควันพิษต่างๆ เท่าที่จะทำได้ สิ่งเหล่านี้เป็นผลร้ายที่จะทำอันตรายให้ผิวเราคล้ำเสียแลดูไม่ขาวใสอย่างที่ควรจะเป็น รวมไปถึงอาหารเสริมเร่งผิวขาวบางประเภทที่เป็นสารเคมีเช่นกัน นอกจากจะไม่ช่วยเรื่องผิวแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวด้วยค่ะ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับให้ได้ถึง 8 ชั่วโมง ถือว่าเป็นสุขอนามัยที่เราใฝ่หามากที่สุด แต่ในสภาวะที่การเดินทางรัดตัวขนาดนี้ ส่วนใหญ่มักจะนอนกันได้เต็มที่เพียงแค่ 5 - 6 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการนอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ แต่เชื่อหรือไม่ว่าหากเรานอนหลับสนิทหรือหลับลึกติดต่อกันถึง 4 ชั่วโมงก็เพียงพอในระดับหนึ่ง และยังช่วยให้ผิวพรรณอิ่มเอิบสดใสดูดีขึ้นอีกด้วย
จากเคล็ดลับที่ง่ายเช่นนี้จนเราสามารถปฏิบัติได้ทุกวัน ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด ถ้าเราทำจนติดเป็นนิสัยแล้ว ผิวที่ดูขาวใสอย่างปลอดภัยก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงแค่เราใส่ใจในทุกขั้นตอนและอาศัยความสม่ำเสมอเท่านั้นเองค่ะ