หน้าอก9แบบ กับวิธีเลือกชุดชั้นใน ไม่ต้องเพอร์เฟคทุกส่วนสัด

หน้าอก9แบบ เลือกชุดชั้นในให้เหมาะ- เคยไหมเมื่อมีการรวมญาติ รวมกลุ่มเพื่อนเก่า แล้วคุณโดนทักว่าอ้วนขึ้น ดำขึ้น หรือแม้กระทั่งการโดนล้อเลียนจากบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสูง สีผิว น้ำหนัก รูปร่าง ลักษณะร่างกาย ไปจนถึงเรื่องขนาดหน้าอก

ปัจจุบันการรณรงค์เรื่อง Body shaming หรือที่เรารู้จักกันดี ในความหมายของการวิจารณ์ร่างกายบุคคลอื่น โดยคำพูด หรือการกระทำในเชิงเปรียบเทียบ ล้อเลียน จนส่งผลให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกอับอาย ไม่มั่นใจกับร่างกายตัวเอง

และหลายครั้งการโดนกระทำเช่นนี้กระทบต่อจิตใจ ความเชื่อมั่นของคนๆ นั้น ซึ่งปัจจุบันถือเป็นปัญหาระดับสากล เพราะการวิจารณ์ลักษณะดังกล่าว ปัจจุบันขยายวงเป็นการวิจารณ์ผ่านสังคมออนไลน์ ทั้งที่ไม่รู้จักกันในชีวิตจริง

ไม่ง่ายเลยที่จะบอกใครต่อใครหยุดวิจารณ์ ล้อเลียนร่างกายผู้อื่น แต่หนทางหนึ่งที่เราเองควบคุมได้ คือการเรียนรู้จุดเด่น-จุดด้อย ส่วนไหนแก้ได้ก็แก้ ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องเข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ไปพร้อมๆ กับการดูแลรักษาร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็ง

สำหรับผู้หญิงแล้ว การถูกล้อเลียนเรื่องหน้าอก ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นไม่น้อย จึงต้องเรียกความมั่นใจก่อนเป็นลำดับแรก และทุกคนสามารถเผยความเซ็กซี่ได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกชุดชั้นในที่เหมาะสมกับหุ่นของตัวเอง ซึ่งมีเคล็ดลับจาก "สิป อินติเมท" (SYP Intimate) แบรนด์ชุดชั้นสัญชาติไทย มาฝาก

1. Slender อกเล็ก
คำว่า สเลนเดอร์ สำหรับเรือนร่างคือคนหุ่นดี เอวบาง ร่างเล็ก แต่สำหรับหน้าอกทรงสเลนเดอร์ คือ เนื้อบาง อกเล็ก เนื้อหน้าอกไม่เต็ม หน้าอกห่าง เสื้อในที่เหมาะสำหรับสาวๆ หน้าอกทรงนี้ก็คือ ทรงลึกๆ ที่มีโครงหรือบราเลท แบบมีโครงจะช่วยโกยเนื้อด้านข้างมาเสริมให้เนื้อหน้าอกมาอยู่บริเวณเซ็นเตอร์ ช่วยทำให้ทรงสาวๆ สวย ดูมีเนินและมีทรงมากขึ้น

2. Side set อกห่าง
มีเนื้อที่บริเวณเนินอกแต่มีช่องว่างระหว่างอก การเลือกใส่เสื้อในหรือบราตะขอหน้าจะช่วยดันให้อกมาชิดกันได้ดี จะเลือกใช้แบบมีโครงหรือไม่มีก็ได้ หรือเลือกใช้เสื้อในตะขอหลังที่ไม่มีช่องว่างระหว่างโครงมากนัก ทรงหน้าอกของคุณก็ยังจะสวยเป๊ะอยู่

 

3. Athletic หน้าอกแบนและกว้าง
หน้าอกแบนและกว้าง ไม่มีเนื้อเนินอก การเลือกเสื้อในที่เหมาะสมกับหน้าอกทรงนี้ คือ เสื้อในที่ไม่มีโครง หรือที่เรียกกันว่าบราเลท (Bralette) หรือจะใช้เสื้อชั้นในโครงกว้าง ฐานโค้งต่ำก็ช่วยให้สวมใส่สบาย ไม่บีบกด แถมยังช่วยซัพพอร์ตหน้าอกอีกด้วย

4. Round อกกลม
อกทรงกลมที่ใครๆ ก็ฝันอยากมี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหน้าอกแบบนี้สามารถเลือกใส่เสื้อในแบบไหนก็ได้ จะมีโครงหรือไม่มีโครงได้หมด โชว์เนินเนื้อสวยๆ ได้ โดยไม่ต้องพึ่งฟองน้ำ

5. Tear drop ทรงหยดน้ำ
หน้าอกทรงนี้จะคล้ายๆ กับหน้าอกทรงกลม แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่เนื้อช่วงบนจะไม่มากเท่า ทำให้หน้าอกทรงเหมือนรูปหยดน้ำ หน้าอกแบบนี้จะเลือกใส่เสื้อในแบบไหนก็ได้ ไม่ว่ามีโครงหรือไม่มี แต่ถ้ามีโครงจะยิ่งช่วยยกเนื้อให้ดูมีเนินสวยขึ้น

6. East West หน้าอกชี้ไปคนละทาง
ถ้าหน้าอกคุณไม่สามัคคีกัน จุกชี้ไปคนละทาง แนะนำว่าการใส่เสื้อใน Push-up จะช่วยปรับทิศทางให้หน้าอกของสาวๆ มองดูไปในทางที่ตรงมากขึ้น จะเลือกแบบมีฟองน้ำด้วยก็ได้ แต่ไม่ต้องหนามากเพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัดมากเกินไป

7. Relaxed หย่อนคล้อย
ถ้าหน้าอกคุณมีลักษณะแบบนี้ คือ จุกต่ำ ทิศทางชี้ลงต่ำ แนะนำให้ใส่เสื้อในที่มีโครงทรงยู (U shape bra) เพราะทรงนี้จะช่วยยกและโอบอุ้มหน้าอก และประคองไม่ให้หย่อนคล้อยมากขึ้น

8. Bell Shape หน้าอกทรงระฆัง
หน้าอกทรงระฆัง คือลักษณะช่วงอกด้านบนไม่ค่อยมีเนื้อ จะมีเนื้อที่อกล่างมากกว่า ดูเหมือนทรงระฆัง การเลือกใส่เสื้อในมีโครงทรงยูต่ำและยูสูง (U shape bra) จะช่วยยกให้ดูมีเนินมากขึ้น ส่วนเสื้อในโครงกว้างหรือบราที่ลูกไม้สูงๆ ขึ้นมาถึงสายบ่า จะช่วยเสริมให้การแต่งตัวสวยขึ้นได้เหมือนกัน สาวๆทรงนี้ ลองหาบราลูกไม้สวยๆ นิ่มๆ มาใส่ดู นอกจากได้ทรงสวยยังดูมีสไตล์ สนุกกับการแต่งตัวได้มากขึ้น

9. Asymmetric หน้าอกไม่เท่ากัน
อก 2 ข้างไม่เท่ากับแบบเห็นได้ชัด การเลือกใช้ Push-up หรือบราที่สามารถถอดฟองน้ำออกได้จะเหมาะที่สุด เพราะคุณสามารถถอดฟองน้ำหรือ เพิ่มเติมฟองน้ำเข้าไปอีกข้างได้ เป็นการทำให้หน้าอกทั้ง 2 ข้างดูเท่ากัน