10 ปีผ่านไป ซูมทุกดีเทลชุดเจ้าสาวของดัชเชสเคทกับราคาที่ไม่ธรรมดา

ถึงกับต้องขยี้ตามองกันหลายรอบเลยทีเดียว สำหรับลุคเจ้าสาวของดัชเชสเคท หรือ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่ผ่านมานานถึง 10 ปีแล้ว ตั้งแต่พิธีเสกสมรส เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2011 แต่ยังงดงามตราตรึงใจจนถึงทุกวันนี้ แถมยังขึ้นแท่นลุคเจ้าสาวไอคอนิก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเจ้าสาวทุกยุคทุกสมัย

เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 10 ปี พิธีเสกสมรสของดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซูมทุกดีเทล ลุคเจ้าสาวของดัชเชสเคท เพื่อเป็นไอเดียให้กับว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายกันค่ะ

เริ่มกันที่ "ชุดเจ้าสาว" ซึ่งกลายต้นฉบับให้กับเหล่าเจ้าสาวแบบฟีเวอร์ โดยชุดเจ้าสาวของดัสเสชเคทเป็นดีไซน์ที่ไม่หวือหวา แต่สวยคลาสสิกสุดๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์คอวี แขนยาว การคอดช่วงเอวแล้วค่อยๆ ขยายออกช่วงสะโพก ซึ่งเป็นลักษณะชุดในสมัย Victorian และชายกระโปรงลากยาวตามตำรับเจ้าหญิง บวกกับความหรูหราของผ้าลูกไม้ลวดลายสุดประณีต ซึ่งปักเย็บอย่างพิถีพิถันไว้บนผ้าไหมซาตินสีงาช้าง โดยชุดนี้ออกแบบโดย Sarah Burton จากแบรนด์ Alexander McQueen มีมูลค่ากว่า 250,000 ปอนด์ หรือมากกว่า 10 ล้านบาท

ส่วน "เวล" หรือผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวของดัชเชสเคท เป็นดีไซน์เรียบๆ แต่ตัดเย็บจากผ้าเนื้อดี และปักลูกไม้ที่ชายผ้าอย่างประณีต

สำหรับ "เทียร่า" ซึ่งเป็นที่จับตามองไม่แพ้ชุดเจ้าสาว ดัสเชสเคททรงสวม Cartier Halo ในพิธีเสกสมรส ซึ่งเป็นเทียร่าจากปี ค.ศ. 1936 ที่ดยุกแห่งยอร์ก (ต่อมาคือกษัตริย์จอร์จที่ 6) ทรงสั่งทำขึ้น เพื่อเป็นของขวัญวันครบรอบอภิเษกสมรสแก่พระชายา ต่อมาในปี ค.ศ. 1944 ได้พระราชทานเป็นของขวัญแก่เจ้าหญิงเอลิซาเบธ (สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปัจจุบัน) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ 18 พรรษา โดยเทียร่าองค์นี้ประดับด้วยเพชรเม็ดงามกว่า 1,000 เม็ดเลยทีเดียว

ในส่วนของเครื่องประดับ ดัชเชสเคททรงใส่เพียง "ต่างหู" เท่านั้น โดยเลือกใส่ต่างหูเพชรทรงหยดน้ำที่แมตช์กับเทียร่าอย่างลงตัว โดยออกแบบพิเศษเป็นรูปใบโอ๊คและผลโอ๊ค ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลมิดเดิลตัน ฝีมือการดีไซน์ของ Robinson Pelham และเป็นต่างหูที่พ่อและแม่ของดัชเชสเคทมอบให้เป็นของขวัญแต่งงาน

ปิดท้ายด้วย "รองเท้า" ที่แม้ว่าแทบจะไม่ได้อวดโฉมเลย แต่ก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ดัชเชสเคทเฉิดฉายสุดๆ ในพิธีเสกสมรส โดยรองเท้าคู่นั้นทำจากผ้าซาตินสีงาช้าง ตัดเย็บแบบแฮนด์เมดโดยทีมงานของ Alexander Mc Queen และปักลูกไม้อย่างประณีตด้วยฝีมือของวิทยาลัยในวังหลวง