งามสง่าเกินบรรยาย! พระราชินี ในชุดฉลองพระองค์ไทยบรมพิมาน

ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานอันวิจิตรงดงามที่งดเผยพระอิสริยยศและรสนิยมอันละเมียดละไมของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย กลับมาเป็นที่กล่าวขานอีกครั้ง ด้วยการทรงเลือกผ้าไหมพื้นเรียบสง่า ประกอบพระภูษาเป็นผ้าไหมยกดอกลาย "ดอกโมกสลับดอกแก้ว" ถมเกสร ล้อมด้วยเชิงยกทองกรวยเชิงกนกสองชั้น ซึ่งล้วนสื่อความหมายลึกซึ้งทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมไทย

ชื่อ "โมก" นั้นไม่เพียงเป็นชื่อไม้ดอกพื้นถิ่นที่ให้ความหอมละมุน แต่ยังพ้องเสียงกับคำว่า "โมกข์" ในภาษาบาลี และ "โมกษ์" ในภาษาสันสกฤต อันมีความหมายทางพุทธศาสนา หมายถึง "ความหลุดพ้น" จากทุกข์และกิเลสทั้งปวง เป็นจุดหมายสูงสุดแห่งการปฏิบัติธรรม สะท้อนถึงหลักแห่งชีวิตอันสงบเย็น และแนวทางแห่งการพ้นทุกข์ที่ชาวพุทธไทยน้อมนำเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมาเนิ่นนาน

ในขณะเดียวกัน ดอกแก้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบในลวดลายผ้า ก็คือดอกไม้มงคลสีขาวที่มีความหมายลึกซึ้งถึง "ความดีงาม ความผ่องใส" และ "ความรักบริสุทธิ์" ตามความเชื่อพื้นบ้าน การปลูกดอกแก้วเชื่อว่าจะนำความรัก ความภักดี และความเป็นที่รักของผู้คนมาสู่ชีวิต ราวกับ "เป็นแก้วตาดวงใจ" สมดังความหมายที่ลึกซึ้งของชื่อดอกไม้ชนิดนี้

เมื่อนำมาผสานไว้บนพระภูษาผ้าไหมยกดอก และทรงห่มทับด้วย ผ้าทรงสะพักประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์ จึงยิ่งเสริมส่งความวิจิตรสง่างามให้ฉลองพระองค์ชุดนี้ทรงคุณค่ายิ่ง ทั้งในแง่ศิลปะหัตถกรรมไทย และมิติทางจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ในทุกเส้นไหมและลวดลาย