โรคเริมจะติดต่อกันผ่านการสัมผัสทางปาก เช่น ดินสอเขียนขอบปาก ลิปสติก ลิปกลอส และคราบต่างๆ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะใช้เครื่องสำอางทดลองสัมผัสกับปากของตัวเองโดยตรงซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะและอาจทำให้ติดโรคร้ายแรงได้
2. คุณอาจเจ็บไข้ได้ป่วย
การใช้เครื่องสำอางที่เกี่ยวข้องกับริมฝีปากอาจทำให้คุณป่วยหลายวันได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ลูกกลิ้ง หลอดบีบ หรือฟองน้ำแต่เชื้อไวรัสและแบคทีเรียจากปากก็สามารถเคลื่อนย้ายไปยังอุปกรณ์เหล่านั้นเพื่อแพร่เชื้อหวัดและไข้หวัดใหญ่ได้ ขณะที่การใช้นิ้วสกปรกก็สามารถรับเชื้อแบคทีเรียจากสิ่งแวดล้อม เช่น สตาฟีโลค็อกคัสหรืออีโคไลได้เช่นกัน ดังนั้นหากสัมผัสกับปากโดยตรงก็อาจทำให้เกิดผื่นคันหรือทำให้คุณไม่สบายได้
3. เสี่ยงต่อการเป็นโรคตาแดง
เยื่อบุตาอักเสบเป็นหนึ่งในการติดเชื้อที่พบได้บ่อยที่สุดซึ่งสามารถติดต่อกันได้ผ่านเครื่องสำอางตกแต่งดวงตาที่ไม่สะอาด ดังนั้นหลังใช้อุปกรณ์ทุกชิ้นควรเช็ดให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์
4. ดวงตาติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย
ภายในแท่งมาสคาร่าที่ปิดทึบจะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคทุกครั้งที่คุณใส่แปรงกลับเข้าไป จากนั้นบริเวณเปลือกตาและขนตาของคุณก็จะเต็มไปด้วยเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส จนทำให้เกิดโรคเปลือกตาอักเสบ ตาแดง และการติดเชื้อไวรัสอะดีโน เป็นต้น
5. สิวเห่อ
เมื่อพูดถึงฟองน้ำรูปไข่ คุณควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอโดยเฉพาะถ้าคุณมีโอกาสเป็นสิวได้ง่าย เนื่องจากอุปกรณ์ที่เปียกชื้นอย่างฟองน้ำมักจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคชั้นดี เพียงใช้แชมพูและล้างให้สะอาด จากนั้นก็ทิ้งไว้ข้ามคืนให้แห้งสนิท
6. เลือกเอาระหว่างเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วกับน้ำมัน
การใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดราคาแพงอย่างแปรงไฟฟ้า ร่วมกับคนอื่นอาจเป็นสิ่งล่อตาล่อใจแต่ขอเตือนว่าอย่าทำ! แม้ว่าแปรงเหล่านี้จะดีมากในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง กำจัดซีบัม เชื้อแบคทีเรีย และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป แต่ก็ไม่เหมาะกับการใช้ร่วมกันเป็นอันขาด ง่ายๆคุณคงไม่คิดที่จะใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่นใช่ไหม? อี๊..
7. สัมผัสเลือดและของเหลวจากในร่างกาย
มีดโกนคือใบมีดโลหะอันแหลมคมซึ่งสามารถฝากรอยแผลได้ทั้งใหญ่และเล็กไว้บนผิวหนังของคุณ นอกจากนี้ยังอาจแพร่กระจายเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบนผิวหนังไปยังคนอื่นๆได้อีกด้วย ต่อให้คุณล้างน้ำแล้วก็เป็นไปได้ว่าเลือดและของเหลวจากในร่างกายจะยังหลงเหลืออยู่บนนั้นซึ่งอาจทำให้เชื้อไวรัสตับอักเสบและเอชไอวีแพร่กระจายออกไป
8. เชื้อราที่เล็บหรือโรคน้ำกัดเท้า
เท้ากับนิ้วเท้าสามารถเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อราได้ เช่น โรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่เล็บ เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคที่รักษาได้ยากมากจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นการเป็นแผลบนผิวหนังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและส่งต่อเชื้อไวรัสที่นำโดยเลือดอย่างไวรัสตับอักเสบ ทางที่ดีคุณควรล้างอุปกรณ์ตัดเล็บให้สะอาดและตามด้วยเช็ดแอลกอฮอล์