40 ยังแจ๋ว! ปิ่น – เก็จมณี วรรธนะสิน กับ เคล็ดลับความสวย ที่ใครๆ ก็ทำได้

อีกไม่กี่วันก็จะได้บอกลาปีเก่าเริ่มต้นก้าวสู่ปีใหม่กันแล้ว...ปีนี้หากใครต้องพบเจอกับเรื่องหนักๆ จนละเลยการดูแลตัวเอง ทั้งสุขภาพใจ สุขภาพกาย เอาเป็นว่าปีใหม่ปีนี้มาตั้งใจดูแลสุขภาพใจ สุขภาพกาย ให้แข็งแรงขึ้นกันดีกว่า

ซึ่งวันนี้ก็พิเศษมากๆ เพราะเราได้นัดสัมภาษณ์ถึงการดูแลสุขภาพกับนักแสดงสาวสวยที่สาวๆ ทั่วประเทศอยากจะสมัครเป็นลูกสะใภ้ "ปิ่น - เก็จมณี วรรธนะสิน" ที่ร้าน What Da Health By Pinto ร้านอาหารน่ารักๆ เน้นเมนูสุขภาพ ตั้งอยู่ที่ "วิลล่า มาร์เก็ท" สาขา "หลังสวน" ณ ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ เอาเป็นว่าเรามาล้วงเคล็ดลับความสวย อยู่เหนือกาลเวลาของคุณแม่ลูกสาม คุณปิ่น - เก็จมณี กันดีกว่าค่ะ

แม้อายุจะเข้าสู่เลข 4 แล้ว แต่ยังสวยเป๊ะเหมือนเดิมเลย มีเคล็ดลับความสวย หรือวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร

จริงๆ ปิ่นไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรพิเศษเลยนะคะ แต่อาจเพราะเราใส่ใจดูแลสุขภาพมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คือ ที่บ้านจะสอนให้ทานผัก ผลไม้ ตั้งแต่เด็กๆ แต่ปิ่นมาเห็นความสำคัญของสุขภาพก็ตอนที่ป่วย แล้วต้องนั่งรถเข็นอยู่ 2 ปี แต่ด้วยความที่เรามองโลกในแง่ดีและมีความศรัทธาในพระเจ้า ปิ่นเลยเชื่อว่าต้องหายป่วย ต้องกลับมาเดินได้ ซึ่งหลังจากนั้นปิ่นก็มองเห็นเลยว่า สุขภาพเราสำคัญมากๆ ถ้าถามว่ามีเคล็ดลับอะไร สำหรับปิ่น คือ

มองโลกในแง่ดี อารมณ์ดีในทุกๆ วัน เพื่อช่วยสร้างพลังบวกให้กับจิตใจ

นอนให้เพียงพอ ปิ่นจะนอนให้ครบ 7 - 8 ชั่วโมง แต่สำหรับปิ่นไม่ใช่การนอนแบบรวดเดียว แต่เป็นการนอนแบบสะสมแต้ม เพราะเราเองก็ต้องดูแลสามี ดูแลลูก ก็จะเข้านอนก่อน พอคุณสามี เจ-เจตริน หรือลูกๆ กลับบ้าน ปิ่นก็จะตื่นมาดูแลก่อนจะกลับไปนอนต่อ คือ จะพยายามเก็บแต้มให้ครบ แต่ถ้าช่วงไหนงานยุ่งหรือถ่ายละคร เราไม่สามารถนอนพักผ่อนได้เพียงพอก็จะใช้วิธี power nap หรืองีบระหว่างวัน คือ นอนหลับให้สนิทสัก 15 - 20 นาที ก็ช่วยให้ร่างกายได้พัก รู้สึกสดชื่นขึ้น

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นกฎขั้นพื้นฐานเลย ซึ่งปิ่นจะพยายามทานให้ครบ 5 หมู่ แต่จะเน้นพวกผัก ผลไม้เยอะ ลดทานพวก Dairy Product เพราะร่างกายในวัยอย่างปิ่นไม่ได้ต้องการเท่ากับเด็กๆ และอีกข้อที่อยากแนะนำเลยคือ หมั่นสังเกตร่างกายว่าเวลาทานอาหารประเภทไหนแล้วดี ทานอะไรแล้วทำให้ระบบย่อยไม่ดี ท้องอืดบ่อย ก็พยายามลดลง และสุดท้ายคือ อย่าลืมออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินแล้ว ยังทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ซึ่งปิ่นเองออกกำลังกายด้วย โยคะ, พิลาทีส (Pilates), ขี้ม้า 3-4 วันต่อสัปดาห์

การเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นการดูแลตัวเองขั้นเบสิกเลย แต่ปิ่นมาสนใจจริงจัง คำนึงถึงแหล่งต้นต่อ แหล่งผลิต เพราะจากที่ปิ่นเคยไม่สบาย พอร่างกายเรากลับมาแข็งแรง ปิ่นรู้เลยว่าสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ

ดังนั้นถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรง สิ่งสำคัญเลยคือ อาหารที่เราทานเข้าไป เรามั่นใจได้อย่างไรว่าปลอดภัยจากสารพิษจริงๆ และด้วยความที่ปิ่นหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพ หันมาสนใจเรื่องสมุนไพร หรือแม้แต่น้ำตาล ปิ่นก็ศึกษาเลยว่าอะไรที่ให้ความหวานแต่ดีต่อสุขภาพ ก็ทำทานเองที่บ้าน

สุดท้ายตัดสินใจไหนๆ ก็ไหนแล้ว ทำขายเลยดีกว่า อยากให้ทุกคนหันมารักษาสุขภาพด้วย เลยเกิดแบรนด์ What Da Health By Pinto ตอนแรกปิ่นทำขายใน Instagram มีลูกค้าสนใจพอสมควรเลย และบังเอิญว่าได้ทำเลดีที่ วิลล่า มาร์เก็ต หลังสวน ปิ่นเลยตัดสินใจเปิดร้านที่นี่เลย อยู่ใจกลางเมืองด้วยค่ะ

ส่วนเมนูในร้านทุกอย่างเป็นออร์แกนิก ปิ่นศึกษาหาฟาร์มปลูกผัก ผลไม้ ดอกไม้ ที่ไหนในประเทศไทยบ้างที่ปลูกแบบออร์แกนิกจริงๆ แล้วนำมาครีเอทเมนู เช่น สลัดอิ่มเอิบ, บุปผาโรล, ข้าวยำปิ่นโต สมุนไพรไทย, บุปผาสกอน, น้ำผัก ผลไม้สกัดเย็น, โยเกิร์ต ฯลฯ

เมนูแต่ละเมนูจะมีส่วนผสมของดอกไม้มาปรุงอาหาร เช่น ดอกอัญชัน มีสรรพคุณบำรุงเส้นผมให้เงางาม เพิ่มความดกดำให้คิ้ว ช่วยบำรุงสายตา, ดอกพวงชมพู มีวิตามินเอ ช่วยในการบำรุง สายตา, ดอกหางนกยูง ช่วยลดอาการปวดฟันได้, ดาวกระจาย ช่วยฟอกโลหิต และดอกแก้วลืมวาง หรือดอกผีเสื้อ ดีต่อหัวใจ ไต กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้เล็ก เป็นต้น

นอกจากนี้ยังใช้ ข้าวกล้อง และ ควินัว แทนข้าวขาว ส่วนใครที่เป็นโรคเบาหวานไม่ต้องกังวล เพราะที่ร้าน ปิ่นเลือกใช้น้ำตาลที่สกัดจากสมุนไพร ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น น้ำตาลจากใบบัวบก, น้ำตาลจากรากสามสิบ และน้ำตาลจากหมามุ่ยค่ะ

"ใบหูเสือ" เป็นอีกพืชสมุนไพรไทย ซึ่งปิ่นนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารของที่ร้าน เพราะมีกลิ่นคล้ายกับออริกาโน และช่วยแก้ไอ บำรุงเลือดลม ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้หวัดคัดจมูก ซึ่งที่บ้านปิ่นก็ปลูกต้นหูเสือไว้เหมือนกันค่ะ

อยากให้ฝากถึงคนรักสุขภาพ หรือใครที่อยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพ

สุขภาพดี เริ่มต้นได้เพียงแค่เราใส่ใจ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และที่สำคัญคือ การบริหารอารมณ์ เมื่ออารมณ์ดี คิดบวก สิ่งดีๆ ก็จะตามมา

เครดิตแหล่งข้อมูล : praew