เวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-Aging คงความสาวไว้ให้นานที่สุด!

เป็นคำถามที่สาวๆ เฝ้าสงสัยกันอยู่เสมอว่าทำอย่างไร ถึงจะคงความผิวเต่งตึง ความอ่อนเยาว์อย่างสาวๆ แรกแย้มเอาไว้ให้นานที่สุด หนึ่งในศาสตร์การแพทย์ที่เน้นศึกษาและให้คำแนะนำทางด้านนี้โดยตรงก็คือ เวชศาสตร์ชะลอวัย หรือ Anti-Aging ซึ่งวิธีที่จะช่วยชะลอวัยเอาไว้นั้น พญ.ชนิดา ขวัญฐิตินันท์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ได้ให้คำแนะนำเราไว้ตามนี้ค่ะ

Anti – Aging คืออะไร ?

ศาสตร์ชะลอวัยนี้เน้น การซักประวัติคนไข้ และ การตรวจดูความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกาย อย่างบางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมเวลาเราไปตรวจร่างกายประจำปีแล้วทุกอย่างปกติ แต่กลับยังมีอาการต่างๆ เวชศาสตร์ชะลอวัยจะเน้นการตรวจแล็ปที่ลึกลงไปกว่านั้น เช่นตรวจจากเลือด ปัสสาวะ น้ำลาย พร้อมรักษาอย่างตรงจุด การรักษาก็จะมีทั้งแนะนำเรื่อง การทานอาหาร ท่าออกกำลังกาย การทานวิตามิน รวมไปถึงการให้ฮอร์โมนบางชนิด นับเป็นศาสตร์ที่ยังใหม่ในประเทศไทย แต่ที่ต่างประเทศอย่างฝั่งยุโรป หรือ อเมริการู้จักศาสตร์นี้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 10 ปีแล้ว

ฮอร์โมน ปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับความเยาว์วัย

ฮอร์โมน มีส่วนสำคัญต่อร่างกายเยอะมาก บางชนิดเป็นตัวตัดสินชะตาเลยทีเดียว ว่าเราจะมี ผิวเต่งตึง หรือ ผิวหย่อนคล้อย ทุกคนคงไม่อยากเจออย่างหลังแน่ๆ ดังนั้นอย่ามองข้าม โกร็ธฮอร์โมน (Growth Hormone) ไป มีฮอร์โมนอีกหลายตัวที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับผิวพรรณ สรีระ และกล้ามเนื้อ โดยปกติร่างกายของเราจะผลิตเอง แต่เมื่อเราอายุ 20 ปีขึ้นไป อัตราการผลิตฮอร์โมนจะลดลง ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มีผิวพรรณที่ไม่ค่อยสดใส รวมถึงความหย่อนคล้อยที่ตามมาติดๆ

โกร็ธฮอร์โมน (Growth Hormone) ฮอร์โมนชะลอความแก่

โกร็ธฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโต และ ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นมวลกระดูก ช่วยย่อยไขมันและน้ำตาล รวมถึงช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายอยู่ในภาวะปกติ ฮอร์โมนชนิดนี้จะหลั่งออกมาจาก ต่อมพิทูอิตารี ใต้สมองตั้งแต่เราเกิด และหลั่งมากที่สุดในช่วงอายุ 15 ปี

จะเกิดอะไรขึ้นหากขาด โกร็ธฮอร์โมน

1.) ร่างกายจะดูแก่กว่าวัย

2.) ผมหงอก ผมบาง ผมร่วงง่าย

3.) ผิวเหี่ยวย่น ผิวหน้ามีปัญหา

4.) กระดูกพรุน

5.) กล้ามเนื้อลีบ และ อ่อนแรง

ใครๆ ก็ไม่อยากแก่เร็วจริงมั้ย ทำอย่างไร ถึงจะช่วยให้ร่างกายหลั่ง โกร๊ธฮอร์โมน ออกมาได้เต็มที่ พฤติกรรมแบบไหนที่จะช่วย ชะลอวัย ของเราเอาไว้ได้?

พฤติกรรมชะลอวัย

1.) เข้านอนก่อนเที่ยงคืน

ในเชิงทฤษฏี โกร๊ธฮอร์โมน จะหลั่งออกมาในช่วงเวลากลางคืนคือ 23.00 – 1.30น. และจะหลั่งออกมาในช่วงที่ร่างกายของเราหลับลึก ดังนั้น เราควรเข้านอนตั้งแต่ 22.00 หรืออย่างช้าคือ 23.00 เพื่อให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนชะลอความแก่ตัวนี้อย่างเต็มที่

2.) งดทานน้ำตาลก่อนนอน หากหิวให้เน้นโปรตีนแทน

บางคนเข้านอนเร็ว แต่ตื่นมากลับรู้สึกไม่สดชื่น นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายได้รับ น้ำตาล ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของโกร๊ธฮอร์โมน เข้าไป อาหารจำพวกแป้ง หรือ น้ำตาลจากผลไม้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงและเกิดอาการง่วงนอน นั่นไม่ใช่ผลดี เพราะน้ำตาลที่เราได้รับก่อนนอน จะไปทำลายโกร๊ธฮอร์โมน เป็นสาเหตุให้เราไม่สดใส ในยามเช้า แนะนำว่าหากหิวจนทนไม่ไหวจริงๆ ในตอนกลางคืน ให้ทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อไก่ ปลาทูน่า และ สลัดผัก แทน

สรุปจากเวชศาสตร์ชะลอวัยได้ว่า การจะคงความสาวสดใสของเราเอาไว้ ที่สำคัญคือการปรับ lifestyle ปรับเวลาการนอน การรับประทาน รวมถึงต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศ เสริมกล้ามเนื้อของเราให้แข็งแรงด้วยค่ะ